ปุ๋ยฟื้นบำรุงต้นใบ ไม้ใบ ไม้ด่าง ไม้ฟอกอากาศ ไม้ประดับไม้ดอก ใบเหลือง ใบไหม้ ใบเล็ก ต้นไม่โต รากเน่า ปุ๋ยค้างคาวดี เร่งราก เร่งต้นใบ
ปุ๋ยฟื้นบำรุงต้นใบ-ไม้ใบ-ไม้ด่าง-ไม้ฟอกอากาศ-ไม้ประดับไม้ดอก-ใบเหลือง-ใบไหม้-ใบเล็ก-ต้นไม่โต-รากเน่า-ปุ๋ยค้างคาวดี-เร่งราก-เร่งต้นใบ
  • ใช้น้อย เห็นผลไว อินทรีย์ชีวภาพ
  • สกัดจากธรรมชาติ100% ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสัตว์เลี้ยง
  • บำรุงต้น ใบ ราก เร่งแตกยอด ยอดพุ่ง เพิ่มกิ่งก้าน
  • เพิ่มใบ เอาใบ เพิ่มปริมาณใบ
  • เร่งใบ ใบเขียวเข้ม ใบใหญ่ ใบหนา ใบมันเงา
  • เร่งโต เร่งลำต้น ขยายลำต้น
  • เร่งรากอย่างรวดเร็ว รากสมบูรณ์
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพืช
  • ย่อยสลายสารเคมีในดิน
  • ย่อสลายอินทรีย์วัตถุในดินให้กลายเป็นปุ๋ย

ปุ๋ยน้ำค้างคาวดี(สูตร 1)

ฟื้นบำรุงต้นใบ เร่งแตกยอด เร่งราก เร่งโต เสริมภูมิคุ้มกัน

ปุ๋ยน้ำใช้ฉีดพ่น ดูดซึมเร็ว ช่วยฟื้นต้นอย่างรวดเร็ว ภายใน 1 อาทิตย์ใบจะเขียวขึ้น หลังจากนั้น จะเริ่มแตกยอดแตกรากใหม่ ต้นจะโตไว อย่างต่อเนื่องและมีภูมิต้านทาน

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น และพื้นดินรอบโคนต้น ฉีดพ่น 15 วัน/ครั้ง

ใช้ผสมน้ำ: ฉีดพ่นใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น และพื้นดิน

ใช้ผสมน้ำ: ราดรดพื้นดินรอบโคนต้น

+ อาหารพืชสูตรพรีเมี่ยม เข้มข้นพิเศษ

+ ใช้น้อย เห็นผลไว อินทรีย์ชีวภาพ

+ สกัดจากธรรมชาติ100%

+ ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสัตว์เลี้ยง

+ บำรุงต้น ใบ ราก

+ เร่งแตกยอด ยอดพุ่ง เพิ่มกิ่งก้าน

+ เพิ่มใบ เอาใบ เพิ่มปริมาณใบ

+ เร่งใบ ใบเขียวเข้ม ใบใหญ่ ใบหนา ใบมันเงา

+ เร่งโต เร่งลำต้น ขยายลำต้น

+ เร่งรากอย่างรวดเร็ว รากสมบูรณ์

+ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพืช

+ ย่อยสลายสารเคมีในดิน

+ ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในดินให้กลายเป็นปุ๋ย

วิธีใช้: ค้างคาวดี สูตร1

1 ใช้ฉีดพ่น ทางใบ กิ่ง ลำต้น ทั้งต้น และพื้นดินรอบโคนต้น

+ อัตรา 20 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร

2 ใช้ราดรดพื้นดินรอบโคนต้น

+ อัตรา 20 ซีซี ผสมน้ำ 10 ลิตร

++++++++++++

บีเอสพลัส+

จุลินทรีย์ป้องกันและกำจัดโรคพืช มีคุณสมบัติในการป้องกันและกำจัดโรคพืชได้ครอบคลุม ทั้งทางต้น และทางดิน

ยอดแห้ง ไฟทอปธอรา แคงเกอร์

ใบจุด ใบไหม้ ปลายใบแห้ง ใบเหลือง

รากเน่า โคนเน่า เน่าคอดิน

ราสนิม ราน้ำค้าง ราใบติด ราสีชมพู

ใช้ผสมน้ำฉีดพ่นทางใบ ทั้งต้น และพื้นดิน

ใช้ผสมน้ำราดรดพื้นดินรอบโคนต้น

บีเอสพลัส+

เชื้อ Bacillus รวมทั้งหมด 4 ชนิด

บาซิลลัส ซับทิลิส เบอร์1, เบอร์2, เบอร์3 และบาซิลลัส เมกะทีเรียม

- ป้องกัน กำจัดโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย

- รากเน่า โคนเน่า เน่าคอดิน ผลเน่า กล้าเน่ายุบ ฯลฯ

- ย่อยซากพืชซากสัตว์ ปุ๋ยที่ตกค้างในดิน

- ช่วยให้พืชดูดซับธาตุอาหาร

- ฟื้นฟูสภาพต้นทำให้พืชแข็งแรงมีภูมิต้านทานโรค

- ช่วยส่งเสริมกระบวนการเจริญเติบโต

- ช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารที่ตกค้างในดิน

- ช่วยให้แตกรากใหม่ และช่วยให้รากเดินดี

วิธีใช้

ใช้ฉีดพ่น ทั่วทั้งต้น ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น และพื้นดินรอบโคนต้น

- ฉีดพ่นบริเวณที่โรคพืชกำลังระบาด

อัตรา 100 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 3-5วัน ฉีดพ่น 1ครั้ง

- ฉีดพ่นเพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืช

อัตรา 50 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 7-15วัน ฉีดพ่น 1ครั้ง

++++++++++++

มูลค้างคาวแท้100% ชนิดกินแมลง (มูลเบา)

ผ่านการหมักด้วยบีเอสพลัส ไบโอไตรโค และหัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ดี เพื่อให้มูลค้างค้าวมีการย่อยสลายที่สมบรูณ์พร้อมใช้ และเพื่อกำจัดเชื้อไม่ดีที่ติดมาจากถ้ำค้างคาว

ช่วยให้ต้นใบรากแข็งแรง มีภูมิต้านทาน ช่วยให้ออกดอก ออกผลมาก ช่วยเพิ่มผลผลิต ทั้งปริมาณ ขนาด คุณภาพ น้ำหนัก รสชาติและสีสัน

ช่วยป้องกันและกำจัดเชื้อราโรคพืช ปรับสภาพดิน บำรุงดิน ช่วยให้ดินร่วนซุย ย่อยสลายสารเคมีในดิน ป้องกันและกำจัดเชื้อราโรคพืช รากเน่า โคนเน่า

วิธีใช้:

ใส่พื้นดินรอบทรงพุ่ม

+ กระถาง 2-3 นิ้ว ใช้ครึ่งช้อนชา

+ กระถางกลาง ใช้ 1 ช้อนชา

+ กระถางใหญ่ ใช้ 1 ช้อนโต๊ะ

+ กระถางใหญ่เกิน 15 นิ้ว 1-2 ช้อนโต๊ะ

+ ไม้ใหญ่ต้นสูง 3-6 เมตร ใช้ 1-2 กำมือ

+ ทุก 7-10 วัน/ครั้ง สำหรับผัก ไม้ล้มลุก

+ ทุก 15-20 วัน/ครั้ง สำหรับไม้ยืนต้น

ข้อควรระวัง:

ไม่ควรโรยจุดเดียว และไม่ควรโรยติดโคนต้นเกินไป

มูลค้างคาวชนิดกินแมลง หมักด้วยจุลินทรีย์ที่ดีหลายชนิด

1. มีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม เข้มข้นและครบถ้วน

มากกว่าปุ๋ยมูลสัตว์ชนิดอื่น

2. ช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุย เหมาะแก่การเติบโตของพืช ช่วยให้รากขยายได้เร็ว ลำต้นแข็งแรง

3. ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรีย

4. ช่วยให้พืชมีความแข็งแรง มีภูมิต้านทาน

5. ช่วยย่อยสลายอินทรีย์สาร เปลี่ยนเป็นธาตุอาหารของพืช

6. ช่วยย่อยสลายสารเคมีในดิน

7. ช่วยให้ผนังเซลล์พืชแข็งแรง ขั้วเหนียว (ออกดอก,ออกผลมาก)

8. ช่วยเพิ่มผลผลิต ทั้งขนาด คุณภาพ น้ำหนัก รสชาติและสีสัน

ส่วนประกอบของปุ๋ยมูลค้างคาว

ธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม

ธาตุอาหารรอง แคลเซียม, แมกนีเซียม, กำมะถัน, โบรอน

ธาตุอาหารเสริม ทองแดง, เหล็ก, แมงกานีส, โมลิบดินั่ม, สังกะสี

องค์ประกอบ ฮิวมิดฟอร์ม, อินทรียวัตถุ, ตัวย่อยสลาย

++++++++++++

ไบโอไตรโค (ไตรโคเดอร์ม่า สูตรเข้มข้น)

ป้องกัน กำจัดโรคพืช ฟื้นฟูต้น ส่งเสริมการเติบโตของพืช

กลุ่มเชื้อราธรรมชาติ ป้องกันและกำจัดโรคพืช จากเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย รากเน่า โคนเน่า ผลเน่า กล้าเน่ายุบ ฯลฯ ช่วยย่อยอินทรีย์วัตถุ ซากพืชซากสัตว์ และปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดิน ให้พืชดูดซับนำไปใช้เป็นธาตุอาหารได้

+ ควบคุมโรคพืช จากเชื้อราและแบคทีเรีย

+ ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้กลายเป็นปุ๋ย

+ ปลดปล่อยธาตุอาหารที่ตกค้างในดิน

+ เร่งระบบราก ทำให้รากเดินดี

+ ฟื้นฟูต้น ให้พืชแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค

+ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช

วิธีใช้: ไบโอไตรโค

1. ไบโอไตรโคผสมน้ำ ฉีดพ่นทั่วทั้งต้น ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น และพื้นดินรอบโคนต้น

+ ป้องกันและกำจัดโรคพืช

ผงเชื้อ 20 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร

7-15 วัน ฉีดพ่น 1ครั้ง

+ รักษาลำต้นที่ยางไหล โรคระบาดหนัก

ผงเชื้อ 50 กรัม ผสมน้ำ 10 ลิตร

3-5 วัน ฉีดพ่น 1ครั้ง

ข้อแนะนำ:

+ ฉีดพ่นช่วงแสงแดดอ่อน และมีความชื้น เพื่อให้เชื้อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

+ ใส่สารจับใบ เพื่อการกระจายตัวของเชื้อ และการยึดเกาะได้ดีขึ้น

+ สามารถใช้ร่วมกับอาหารเสริมพืช ยาฆ่าแมลงได้

+ ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีกำจัดโรคพืช เพราะจะไปยับยั้งการทำงานของเชื้อ

2. ไบโอไตรโค ผสมปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก

+ ผงเชื้อไบโอไตรโค 100 กรัม

+ ปุ๋ยอินทรีย์, ปุ๋ยหมัก 50 กก.

+ พรมน้ำหมาดๆ คลุกเคล้าให้ปุ๋ยกับผงเชื้อเป็นเนื้อเดียวกัน

วิธีใช้: ไบโอไตรโคผสมปุ๋ยหมัก

+ ผสมดินเพาะกล้า

+ ผสมดินในหลุมปลูก

+ หว่านรอบโคนต้น และภายในทรงพุ่ม

**หลังหว่านแล้ว ใช้วัสดุคลุมดิน รดน้ำให้ชุ่ม

3. ไบโอไตรโคผสมน้ำ แช่เมล็ดพันธุ์/ท่อนพันธุ์ เพื่อเร่งรากและป้องกันโรค

ผงเชื้อ 10 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร

++++++++++++

ชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืช

วิธีการใช้ชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืช

ระยะการใช้:

1. ใช้ช่วงแมลงระบาด

>>ฉีดพ่น 3 วัน/ครั้ง ติดต่อกัน 2 - 3 ครั้ง

2. ใช้เพื่อป้องกันการระบาดของแมลง

>>ฉีดพ่น 7 วัน/ครั้ง ติดต่อกัน

**เทคนิคการใช้ให้ได้ผลดี:

1. ควรฉีดพ่นให้สัมผัสกับตัวแมลง

2. ควรฉีดพ่นตอนเย็นเพื่อเลี่ยงแสงแดด ฉีดพ่นหลังรดน้ำ ความชื้นจะช่วยให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

3. ควรใส่สารจับใบ เพื่อการกระจายตัวของเชื้อ และการยึดเกาะได้ดีขึ้น

4. ควรปรับหัวฉีดเป็นละอองฝอยเล็ก

5. ควรฉีดพ่น 3 วัน/ครั้ง ติดต่อกัน 2 - 3 ครั้ง ในช่วงที่แมลงเกิดการระบาด

6. สามารถใช้ร่วมกับอาหารเสริมพืช ยาฆ่าแมลงได้

7. ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีกำจัดโรคพืช จะไปยับยั้งการทำงานของเชื้อ

(เว้นระยะห่าง 7 วัน)

8. ไม่ควรใช้ร่วมกับบีเอสพลัส และไบโอไตรโค จะไปยับยั้งการทำงานของเชื้อ

(เว้นระยะห่าง 10 วัน)

---------------

เชื้อราบิวเวอร์เรีย

เชื้อรามีคุณสมบัติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อแมลง สามารถทำลายแมลงได้หลายชนิด โดยเชื้อราจะเจริญเติบโต แทงทะลุตัวแมลง โดยผลิตเอนไซม์ที่เป็นพิษและทำลายแมลงศัตรูพืช แมลงจะไม่ตายทันที (แต่จะตายภายใน 3-7 วัน)

ทำให้เป็นพาหะ นำเชื้อไปติดต่อกับแมลงตัวอื่นที่มาใกล้/สัมผัส เชื้อรายังอาศัยและกินเศษซากที่ผุพังของแมลงที่ตายแล้ว (สังเกตจะมีเส้นใยสีขาวปกคลุมซากแมลงที่ตาย) และสามารถแพร่เชื้อต่อไปได้อีก

ชนิดแมลงศัตรูพืช ที่ใช้บิวเวอร์เรียควบคุม:

- เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น

- เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล

- แมลงหวี่ขาว ไรแดง

- ผีเสื้อ หนอนเจาะสมอฝ้าย

- หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้ใบข้าว

- แมลงปีกแข็งต่างๆ

วิธีใช้: การฉีดพ่น

1. เชื้อราบิวเวอร์เรีย 50 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร

2. สารจับใบ 1-2 ช้อนชา

3. ควรฉีดพ่น หลังให้น้ำ ประมาณ 1 ชั่วโมง ความชื้นจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเชื้อบิวเวอร์เรีย

4. พ่นให้ถูกตัวแมลง ศัตรูพืช หรือบริเวณที่แมลงศัตรูพืชอาศัย

5. ควรฉีดพ่นช่วงเวลาเย็น โดยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการงอกและเจริญเติบโตของเชื้อราคือ ความชื้นสูง และแดดอ่อน

4. ให้น้ำกับแปลงพืช ในวันรุ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความชื้น

5. สำรวจแปลงพืช ถ้ายังพบศัตรูพืชเป้าหมาย ให้พ่นเชื้อราบิวเวอร์เรียซ้ำ

ข้อดี: ของการใช้บิวเวอร์เรียในควบคุมศัตรูพืช

- ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

- เป็นปัจจัยหนึ่งของการควบคุมศัตรูพืชแบบผสมผสาน

- ไม่มีพิษตกค้าง ใช้ได้ทุกระยะของการเจริญเติบโตของพืช

++++++++++

เมธาไรเซียม

เป็นกลุ่มเชื้อราจากธรรมชาติ ช่วยกำจัด ทำลายแมลงศัตรูพืช

ปลอยภัยต่อมนุษย์ สัตว์ ไส้เดือน ตัวห้ำ ตัวเบียน และสิ่งแวดล้อม

เชื้อราเมธาไรเซียม เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีสีเขียวหม่น พบทั่วไปในดิน มีชีวิตอยู่ในดินได้นาน ทำให้มีระยะการควบคุมแมลงศัตรูพืชได้นาน

คุณสมบัติที่ดีของเชื้อราเมธาไรเซียม

1. เพาะเลี้ยงได้ง่าย สามารถเลี้ยงได้บนเมล็ดธัญพืช

2. มีความคงทนในสภาพแวดล้อมสูง สามารถมีชีวิตอยู่ในดินได้ข้ามปี

3. คลุกผสมเชื้อสดลงในดิน หรือละลายเชื้อราผสมน้ำฉีดพ่น

4. แพร่กระจายได้ง่าย โดยปลิวไปกับลม หรือติดไปกับคน สัตว์ หรือแมลงต่างๆ

ชนิดแมลงศัตรูพืช ที่ใช้เมธาไรเซียมควบคุม:

- หนอนด้วง แมลงดำหนามมะพร้าว

- ด้วงแรด ด้วงกวาง ด้วงหนวดยาว

- แมลงค่อมทอง ด้วงหมัดผัก ตั๊กแตน

- หนอนเจาะต้น หนอนทราย หนอนกอ

- เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น

- แมลงหวี่ขาว ไรแดง

- ผีเสื้อ หนอนกระทู้ผัก กระทู้ใบข้าว

- ปลวก มด แมลงสาบ แมลงวัน

- มวน บั่ว ไร

อัตราการใช้:

1. การฉีดพ่น หรือราดรดทางดิน

+ อัตรา 50 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร

+ สารจับใบ 1-2 ช้อนชา

+ ฉีดพ่นเป็นละอองฝอยเล็ก ให้สัมผัสกับตัวแมลง

+ ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น ทั้งต้น เน้นพื้นดิน

2. ทำเหยื่อหรือกองล่อ เพื่อกำจัดแมลงสาบ

เมธาไรเซียม 100 กรัม ผสมกับอาหารล่อแมลง 2-5 กิโลกรัม

3. ผสมกองปุ๋ยหมัก เพื่อกำจัดหนอนด้วง

เมธาไรเซียม 100 กรัม ต่อกองปุ๋ยหมัก 50-100 กิโลกรัม

++++++++++

บีที (เชื้อแบคทีเรีย บาซิลัส ทูริงเยนซิส)

เชื้อแบคทีเรียจากธรรมชาติ กำจัดหนอน แมลง ศัตรูพืช

**ควบคุม หนอน แมลง ศัตรูพืช ที่ดื้อต่อสารเคมีได้เป็นอย่างดี

**ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค สัตว์ ผึ้ง ตัวห้ำ ตัวเบียน และสิ่งแวดล้อม

ชนิดของหนอนศัตรูพืช ที่ใช้บีที ควบคุม:

+ หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ

+ หนอนชอนใบ หนอนกระทู้ผัก

+ หนอนผีเสื้อขาว หนอนกินใบผัก

+ หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนบุ้ง

+ หนอนกระทู้หอม หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด

+ หนอนคืบละหุ่ง หนอนเจาะดอกไม้

+ หนอนแปะใบส้ม หนอนกินใบชมพู่

+ หนอนร่าน หนอนแก้วส้ม

+ หนอนไหมป่า หนอนแปะใบองุ่น

+ หนอนแมลงหวี่ หนอนแมลงวัน

ข้อควรระวัง:

**ไม่ควรใช้เชื้อบีที ฉีดพ่นกำจัดหนอน ในแปลงหม่อนสำหรับเลี้ยงไหม

บีที (เชื้อแบคทีเรีย บาซิลัส ทูริงเยนซิส)

+ ใช้ได้กับ พืชผัก พืชไร่ ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ

+ ป้องกัน กำจัด ทำลายหนอน แมลง ศัตรูพืช

+ ปลอดภัยต่อมนุษย์ สัตว์ ผึ้ง ตัวห้ำ ตัวเบียน และสิ่งแวดล้อม

+ ไม่มีพิษตกค้าง จึงสามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที

+ มีประสิทธิภาพสูง เมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่น

+ สามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

อัตราการใช้:

+ อัตรา 50 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร

+ สารจับใบ 1-2 ช้อนชา

+ ฉีดพ่นเป็นละอองฝอยเล็ก

+ ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น ทั้งต้น และพื้นดิน

วิธีการใช้เพิ่มเติม:

1. ควรผสมน้ำ 1 ลิตร คนให้ละลาย ค่อยนำไปน้ำที่จะใช้ฉีดพ่น

2. ควรแช่ไว้ 2-3 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการทำงานของเชื้อ

3. ควรผสมสารจับใบ เพื่อช่วยให้เชื้อติดกับส่วนของพืชได้นานยิ่งขึ้น

4. ควรปรับหัวฉีดเป็นละอองฝอยเล็ก ฉีดพ่นทั่วทั้งต้น และควรฉีดพ่นในเวลาเย็น

5. ควรฉีดพ่น 3 วัน/ครั้ง ติดต่อกัน 2 - 3 ครั้ง ในช่วงที่แมลงเกิดการระบาด

++++++++++

ทรีพลัส

ประกอบด้วย จุลินทรีย์ 3 ชนิด:

1. Bacillus thuringiensis (บีที)

2. Beauveria bassiana (บิวเวอร์เรีย)

3. Metarhizium anisopliae (เมธาไรเซียม)

ชนิดของหนอนศัตรูพืช ที่ใช้ทรีพลัสควบคุม:

+ หนอนผีเสื้อ หนอนใยผัก หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม

+ หนอนกระทู้ใบข้าว มวน เต่าทอง

+ หนอนเจาะดอกไม้ หนอนเจาะลำต้น หนอนเจาะสมอฝ้าย

+ หนอนแมลงหวี่ หนอนแมลงวัน เจาะทำลายก้อนเห็ด

+ ด้วงแรด ด้วงกวาง ด้วงหนวดยาว แมลงค่อมทอง

+ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น แมลงหวี่ขาว ไรแดง

+ ปลวก มด แมลงสาบ

วิธีใช้ทรีพลัส:

อัตราการใช้ : 50กรัม น้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทั่วต้นพืชและบริเวณพื้นดิน 7-10 วัน/ครั้ง

**กรณีระบาดหนัก ฉีดพ่น 3 วัน/ครั้ง

++++++++++++

มีเอกสารการขยายเชื้อแต่ละชนิด:

👉 ทางร้านได้แนบเอกสาร

วิธีการขยายเชื้อแต่ละชนิด ไปด้วยในกล่องผลิตภัณฑ์ ให้กับลูกค้าทุกกล่องคะ😍🤩

🙏🙏 ลูกค้าต้องการสอบถามเพิ่มเติม:

สามารถติดต่อกับทางร้านได้ตลอด ยินดีให้บริการลูกค้าทุกท่านค่ะ

คำที่เกี่ยวข้อง
ปุ๋ยกิฟฟารีนสูตรเร่งต้นใบรากปุ๋ยบำรุงใบ ไม้ด่างปุ๋ยเร่งรากดอกใบปุ๋ย เร่งราก เร่ง ใบปุ๋ยเร่งรากเร่งใบเร่งดอกปุ๋ยเร่งรากใบปุ๋ยเร่งต้นเร่งใบปุ๋ยเร่งใบเร่งรากปุ๋ยบำรุงไม้ใบปุ๋ย เร่งราก เร่ง ใบกัญชา

สินค้าใกล้เคียง