🍀วอเตอร์เครส 🍀 ราชินีแห่งผักของคนรักสุขภาพ
ลักษณะลำต้นและใบจะคล้ายผักเป็ดของไทยค่ะ ต่างกันตรงที่ขนาดความยาวของใบ
โดยผักวอเตอร์เครสจะมีความยาวมากกว่า ในบ้านเราเริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย
ๆ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญในแถบภาคเหนือและภาคใต้
ซึ่งเป็นที่นิยมปลูกกันมากเพราะเป็นผักที่ปลูกง่ายและโตเร็ว
🍀สามารถกินสด ๆ กินเป็นสลัด
🍀ประกอบอาหารเมนูอื่น ๆ ก็ได้
🍀วอเตอร์เครสปริมาณ 100 กรัม
ให้พลังงานประมาณ 11 แคลอรี่เท่านั้น
🍀ปราศจากไขมัน อุดมด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
🍀มีวิตามินเอ
🍀วิตามินซีในปริมาณสูงมาก
🍀ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
🍀มีแร่ธาตุจำพวกแคลเซียมและเหล็ก ที่ดีต่อกระดูกและฟัน
🍀ที่สำคัญยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถยับยั้งและป้องกันการเกิดมะเร็งได้อีกด้วย
ส่วนวิธีรับประทานที่ดีที่สุดคือควรรับประทานสด เพราะจะให้วิตามินและแร่ธาตุต่อร่างกายได้ดีที่สุด
แต่หากจำเป็นต้องปรุงสุก ก็ไม่ควรผ่านความร้อนในเวลานานเกินไป ด้วยประโยชน์ครบครันรอบด้านขนาดนี้
วอเตอร์เครส จึงได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผักของคนรักสุขภาพนั่นเองค่ะ
และเราอยากกระซิบว่าช่วงปลายปีแบบนี้ เป็นช่วงฤดูกาลของวอเตอร์เครสด้วยนะคะ
ถ้าอยากครีเอทเมนูเพื่อสุขภาพของคุณเอง
วอเตอร์เครส เป็นผักฤทธิ์เย็น มีวิตามิน
A E C แคลเซียมและธาตุเหล็กสูง ช่วยลดระดับไขมันในเลือด
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสายตา เพราะเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ
ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
นำมารับประทานสด หรือใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น
คั้นเป็นน้ำดื่ม แกงจืด
ต้มซุป สลัดผัดไฟแดง ชุบแป้งทอด รับประทานสดพร้อมกับส้มตำ น้ำพริก รวมไปถึงใช้ตกแต่งอาหารให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น
1. เตรียมกิ่งพันธุ์
2.เตรียมแปลงปลูกโดยการขุดดินขึ้นแล้วนำเศษอาหารหรือเพื่อนพืช(อินทรีย์วัตถุ
) มาใส่ใต้ดินที่ขุดขึ้นมา แล้วเอาดินกลบหนาประมาณ 10
เซนติเมตร
3. รดด้วยน้ำปัสสาวะผสมน้ำเปล่า อัตราส่วน 1:10-20
4. นำกิ่งที่เตรียมไว้มาปลูก(ถ้าไม่มีแปลงปลูกก็สามรถปลูกในกระถางหรือล้อยางรถยนต์ก็ได้
โดยใช้หลักการเดียวกัน)
#วอเตอร์เครส #ผัก #ผักวอเตอร์เครส #ผักวิตามินเอ #ผักปลอดสาร #ผักอนามัย