เหรียญรุ่น 3 ครูบาสิงห์แก้ว ญาณวโร วัดปากกอง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ (เลี่ยมจับขอบเงิน ติดเกศา พร้อมใช้)
เหรียญรุ่น 3 ครูบาสิงห์แก้ว ญาณวโร วัดปากกอง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ สร้างจำนวน 6,000 เหรียญ (มีเนื้อเดียว คือเนื้อทองแดงรมดำ)
สร้างถวายท่านครูบาโดย คุณรังสรรค์ อินทะพันธุ์ ลักษณะเหรียญเป็นเหรียญรูปไข่วงรี ด้านหน้าเป็นเหรียญรูปเหมือนท่านครูบาครึ่งองค์
เขียนข้อความในเหรียญว่า ครูบาสิงห์แก้ว ญาณวโร วัดปากกอง สารภี ชม. ด้านหลังเหรียญ ลงยันต์ประจำเหรียญท่านครูบาคือ
ยันต์ตรีนิสิงเหแบบล้านนา (ยันต์ตรีนิสิงเห เป็นยันต์ที่ท่านครูบานำมาใส่หลังเหรียญของท่านทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่น 1-รุ่น 3)
เขียนข้อความด้านบนว่า ฉลองอายุครบ 86 ปี ด้านล่างระบุข้อความว่า รุ่น 3 ศิษย์สร้างถวาย
ท่านครูบาท่านชราภาพมากแล้ว ตั้งใจเสกทิ้งทวน เสกจนหมดพุงที่ร่ำเรียนวิชาอาคมขลังมา เป็นเหรียญที่ครูบาท่านเสกแบบทิ้งทวน
และพิถีพิถันทุกขั้นตอน ท่านครูบาได้บอกกับลูกศิษย์ว่า ข้าเสกจ๋นหมดปุ๋มข้าละ
เหรียญรุ่น 3 ท่านครูบาได้นั่งปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลานานถึง 145 วัน ตั้งแต่วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 เป็นคืนแรก
มีฝนตกลงมาเป็นนิมิตรหมายที่ดี ท่านครูบานั่งปลุกเสกเดี่ยวทุกวันทุกคืน เพราะท่านมีความตั้งใจมากที่จะทำเหรียญรุ่น 3 เป็นรุ่นสุดท้าย
และท่านครูบาปลุกเสกวันสุดท้ายในคืนวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2534 (วันพญาวัน) ตอนกลางวันอากาศร้อนมาก อุณหภูมิสูงถึง 41 องศา
ท่านครูบาได้นิมนต์พระสงฆ์มาร่วมทำพิธีพุทธาภิเษกแบบล้านนา ภายในกุฏิของท่าน
ตอนครูบาเริ่มทำพิธีปลุกเสกเหรียญรุ่น 3 ห่าฝนก็เทสายฝนจากฟากฟ้าลงมา มีลมแรง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ทำให้อากาศเย็นลงโดยไม่ต้องใช้พัดลมเลยเป็นที่น่าอัศจรรย์ (ถ้าสังเกตให้ดีถ้าครูบาทำอะไรฝนมักจะตกลงมาทุกครั้ง...จากบันทึกของลุงหมอวิจารณ์เขียนไว้) เหรียญรุ่น 3 ถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายที่ครูบาท่านได้เสกจนกระทั่งมรณะภาพเสกแบบใส่ทุกอย่างที่ท่านได้ร่ำเรียนมา ทำให้เหรียญนี้มีประสบการณ์มากโดยเฉพาะเรื่องกันผี ไล่ผี ปราบผี และแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุต่างๆ ดังข้อความในใบจองเหรียญรุ่น 3 ได้เขียนไว้ว่า...ครูบาวัดปากกอง ท่านได้เสกเหรียญของท่านที่มีรุ่น 1 รุ่น 2 แจกให้ประชาชนทั่วไปจนหมดวัด ปรากฏว่ามีคนนำไปเลี่ยมห้อยคอกัน ไปประสบอุบัติเหตุตกต้นมะพร้าวสูง 8 เมตร ตกรถยนต์โดยสารขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ถูกรถชน รอดตายอย่างปาฏิหารย์หลายร้อยราย พุทธคุณด้านมหาอุดเยี่ยม กันภูตผีปีศาจยอดเยี่ยม บางคนถึงกับพูดว่ามีท่านในคอ รับรองไม่ตายโหง (ราคาจองเหรียญรุ่นในปี พ.ศ.2533-2534 เหรียญละ 50 บาท) ครูบาสิงห์แก้ว ท่านปลุกเสกวัตถุมงคลแต่ละรุ่นเป็นเวลานานๆเป็นเดือนเป็นปี แล้วถึงจะนำออกมาแจก เหรียญถ้าออกแจกแล้ว ต้องมีคุณวิเศษเข้มขลัง มีพลังพุทธคุณสามารถคุ้มครองภัยได้ จนเป็นที่เชื่อถือกับบุคคลคนทั่วไป บูชาติดตัวเป็นประจำ รับรองว่าคุ้มครองชีวิตท่านได้อย่างที่เราๆรู้กัน เหรียญรุ่น 3 นี้ ท่านปลุกเสกเป็นพิเศษ เป็นเหรียญรุ่นสุดท้าย รับรองได้ว่าพุทธคุณเพียบพร้อม เพราะท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีพลังจิตดี มีวิทยาคมสูง สามารถบรรจุพลังจิตไว้ในวัตถุมงคลของท่านได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อที่จะให้ศิษย์เมื่อนำมาบูชาหรือพกติดตัวแล้วจะบังเกิดสิริมงคลและสามารถคุ้มครอง ตลอดถึงผลอเนกอนันต์ที่จะพึ่งเกิดมีขึ้นได้
นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงเรื่องการป้องกันคุณไสย ใช้แก้คุณไสย ตลอดจนใช้ทำน้ำมนต์ดื่มกิน ประพรม ขับไล่สิ่งอัปมงคลต่างๆ ใช้ห้อยคอ พกติดตัว ติดบ้านเรือน หรือไว้ติดรถ เวลาเดินทางไปไหนจะรู้สึกอุ่นใจ
............................................................
"พระครูสิริธรรมโฆษิต" หรือ "ครูบาสิงห์แก้ว ญาณวโร" หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่า "ครูบาผีกลัว" แห่งวัดปากกอง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวเมืองเชียงใหม่ มาอย่างยาวนาน
ครูบาสิงห์แก้ว วัดปากกองอัตโนประวัติ ครูบาสิงห์แก้ว เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2448 บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 14 ปี
เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ. 2469 โดยมีครูบาเตชะ วัดศรีโพธาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระไชยลังการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และครูบาพรหมมา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า ญาณวโร
เมื่ออุปสมบทแล้ว ศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมต่างๆ จากหลายที่ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ครูบาสม วัดป่าแดด พระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกับครูบาเจ้าศรีวิชัย ร่ำเรียน วิชากับครูบาสมอยู่นานหลายปี และได้วิชาต่างๆ อาทิ วิชาขับไล่ผีและลูคีเมีย ด้วยในสมัยนั้น มีชาวบ้านหลายพื้นที่โดนผีเข้า โดยนำวิชาความรู้มาสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง เป็นตะปูเสกก่าสะท้อน และลูกอมเกศา ซึ่งมีคุณวิเศษทางด้านขับไล่ผีสางอย่างได้ผล
จนได้รับฉายาว่า ครูบาผีกลัว ตราบจนทุกวันนี้
เล่ากันว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง ครูบาสิงห์แก้ว ไปขอเป็นศิษย์ครูบาสม โดยไปด้วยกัน 3 รูป ครูบาสมท่านได้จำแลงกายเป็นเสือ พระอีก 2 รูปวิ่งหนี แต่ครูบาปากกองกลับนิ่ง และนั่งลงต่อหน้าเสือ ครูบาสมจึงได้รับครูบาปากกองเป็นศิษย์เอก ถ่ายทอดวิชาให้หมด
มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่งของครูบาสิงห์แก้ว คือ เป็นธรรมเนียมของพระเกจิแดนล้านนา เมื่อถึงเดือน 4 เดือน 5 คือ ช่วงหน้าหนาวของทุกปี จะมีการเข้านิโรธ คือ การปลีกวิเวกของครูบาแดนล้านนา โดยท่านครูบาสิงห์แก้วก็ได้เข้านิโรธในแถบที่กันดารของอำเภอสารภีในสมัยนั้น ซึ่งสถานที่ที่ท่านไปก็คือ ที่ฝังศพ
ตอนที่ท่านได้นั่งสมาธิ กัมมัฏฐานอยู่นั้น ได้มีวิญญาณหลายตน ได้มาขอส่วนบุญ ครูบาสิงห์แก้วมีเมตตากรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ แล้ววิญญาณเหล่านั้นก็ได้รับผลบุญในครั้งนี้ ต่างยกมืออนุโมทนาในการนี้ด้วย
ด้านวัตถุมงคลของครูบาสิงห์แก้วที่มีชื่อเสียง ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเครื่องรางของขลัง ได้แก่ ตะปูเสก ตะกรุดเสือโคร่ง ตะกรุดเสือสมิง และลูกอม ท่านสร้างลูกอมขึ้นมาเพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านและผู้ที่ไปทำบุญที่วัดปาก กอง โดยท่านครูบาสิงห์แก้วจะปลุกเสกทุกคืนแล้วแจก พุทธคุณลูกอมของท่านใช้กันภูตผีสิ่งอัปมงคล