เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปี2528 รุ่นชนะศึกชายแดน
ข้อมูลสินค้า
ราคา
1,100.00 550.00 บาท
แบรนด์
No Brand
ร้านค้า
- เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปี2528 รุ่นชนะศึกชายแดน . . . พระเครื่องหลวงพ่อเกษมมีพลังพุทธานุภาพสูงส่ง ค้ำจุน คุ้มครองไม่ให้ผู้บูชาตกต่ำ วัตถุมงคลที่ท่านได้อธิษฐานจิตไว้นั้น มีความศักดิ์สิทธิ์และมากด้วยประสบการณ์ ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุรถชน รอดจากคลื่นยักษ์สึนามิ รอดจากการประปฏิวัติการเมือง รอดจากคมมีดคมปืนจนนับครั้งไม่ถ้วน จนทำให้ผู้คนนับถือและเชื่อว่าท่านมีพลังจิตสูงมาก และก็ได้คำยืนยันนี้มากจาก เจ้าคุณนร และหลวงปู่ดู่วัดสะแก ว่าหลวงพ่อเกษมท่านมีพลังจิตมาก ที่สามารถใช้พลังจิตยกของน้ำหนัก 50 ตันได้ . . . มีผู้สร้างพระเครื่องไปให้หลวงพ่อเสกให้ หลวงพ่อเกษมร้อง “อือ” แค่คำเดียวปรากฎว่า วัตถุมงคลนั้นกลับมีประสบการณ์มากมายจนเป็นที่กล่าวขาน นับตั้งแต่นั้นมาลูกศิษย์ลูกหาได้พากันสร้างวัตถุมงคลกันชนิดที่ว่าจำนวนมหาศาล จนทำให้ท่านนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก คนทุกภาคทั่วไทยต่างเดินทางไปหาและกราบไหว้ท่านเป็นจำนวนมาก. . . . . . พระเครื่องหลวงพ่อเกษมเขมโก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดถ้าเป็นพระที่หลวงพ่ออธิษฐานจิตถือว่าใช้ได้เหมือนกันหมด มีความขลังเท่าเทียมกันทุกรุ่นทุกองค์ ถึงขนาดว่า หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เคยกล่าวถึง หลวงพ่อเกษม เขมโก ว่า “แค่ยกถาดบรรจุพระเครื่อง ผ่านหน้าหลวงปู่เกษม พระในถาดก็ศักดิ์สิทธิ์แล้ว เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมานั่งปรกนาน ๆ” . . . อีกคราหนึ่ง มีลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ได้ถามว่า " พระเครื่องที่ทำด้วยโลหะกับเนื้อผง เนื้อผงน่าจะแรงกว่าใช่ไหมครับ " หลวงปู่ดู่กล่าวว่า"ไม่จำเป็น ดูอย่างหลวงพ่อเกษม ท่านเสกก้านธูป คนเอาไปยิงไม่ออก อยู่ที่ผู้เสกหรือตัวอาจารย์นั่นแหละ" . . . หรืออีกคราหนึ่ง ลูกศิษย์ถามว่า "แล้วการที่ปลุกเสกหลายๆ วัน กับปลุกเสกช่วงระยะเวลาเดี๋ยวเดียว อย่างหลวงปู่แหวนปลุกเสกไม่เกิน 15นาที หรือหลวงปู่เสก(หลวงปู่ดู่) ก็เห็นเต็มหมดแล้วนี่ครับ" หลวงปู่ดู่กล่าวว่า "อยู่ที่เชื่อ หลวงพ่อเกษมท่านให้คนถือของหรือกล่องที่จะเสก เดินผ่านช่องกุฏิ ท่านเป่าพรวดเดียวก็ใช้ได้ การปลุกเสกนานๆ อย่างเช่น ในไตรมาส ก็เป็นการบังคับให้ต้องทำเสมอ เสกนานก็ทำให้เพิ่มเติมอะไรที่เห็นว่าขาดตกบกพร่อง ถ้าใครเชื่อข้า ข้าก็ไม่ต้องเสก หยิบให้แล้วนำไปใช้ได้เลย" . . . . . . . . หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระผู้ทรงอภิญญาบารมี ตนบุญแห่งลานนาไทย หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐาน พระเกจิเถราจารย์ทางด้านธุดงควัตรปลีกวิเวก พุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำปาง และชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นพระเถราจารย์ปูชนียบุคคลรูปหนึ่งของประเทศไทย มีผู้มีความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมาก . . . ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ท่านได้ปฏิบัติธรรมจนเป็นพระที่ขาวสะอาด มีศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นพระไม่ติดยึด ใครต้องการอะไร ขออะไร ไม่เคยปฏิเสธ กิจประจำวันอย่างหนึ่งในการประพฤติปฏิบัติกรรมฐานของหลวงพ่อเกษม คือ การที่ท่านออกไปนั่งข้างหลุมฝังศพ หรือไม่ก็ไปนั่งที่ใกล้เชิงตะกอน เพื่อพิจารณาอสุภกรรมฐาน ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาส เดินทางมุ่งหน้าสู่สุสานป่าช้า สถานที่ที่ท่านใช้ปฏิบัติธรรมตลอดอายุขัยของท่าน . . . หลวงพ่อเป็นพระอริยะสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาที่ควรแก่การกราบไหว้สักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตล้วนแล้วแต่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความบริสุทธิ์แห่งมหาพุทธานุภาพ ซึ่งสร้างประสบการณ์มากมายให้กับผู้ที่ใช้บูชา วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นของดีที่เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไป . . . . . . . . . . [ เรื่องหลวงพ่อเกษมให้ลาภ ] . . . เรื่องราวอภินิหารของหลวงพ่อเกษฒที่ให้โชคให้ลาภแก่ลูกศิษย์นั้น เกิดขึ้นเมื่อ วันหนึ่งประมาณเก้าโมงเช้า เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง และเพื่อนเจ้าของโรงงานน้ำปลาโพธาราม ได้เอารถเบนซ์ รุ่น ๕๐๐ เอสอีแอล ไปรับหลวงพ่อเกษมออกเดินทางจากสุสานไตรลักษณ์เพื่อไปทำบุญที่บ้านเจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เมื่อเสร็จธุระต่าง ๆ แล้ว หลวงพ่อจะกลับสุสานไตรลักษณ์ แต่ท่านไม่ยอมขึ้นรถเจ้าประเวทย์และเพื่อนท่านบอกว่า จะนั่งรถ "ดาบหมาน" กลับ ทุกคนก็แปลกใจเพราะ "ดาบหมาน" ไม่ได้มาด้วย จึงโทรศัพท์ตามหาตัวให้มารับ ดาบหมานจึงขับรถฮอนด้าซีวิค ทะเบียน ฉ.๙๗๒๓ กรุงเทพฯ มารับหลวงพ่อเกษมที่บ้านเจ้าประเวทย์กลับสุสานไตรลักษณ์ทันที . . . "ดาบหมาน" เล่าว่า เมื่อหลวงพ่อเกษมนั่งบนรถ ท่านหลับตาภาวนาตลอดทางจนถึงสุสานไตรลักษณ์ ก่อนลงรถ ท่านเอามือล้วงถุงขนมปังที่พกติดตัวมา หยิบขนมปังเต็มกำมือ ยกขึ้นภาวนาสักครู่แล้วถาม "ดาบหมาน" ว่า . . . "มีตำรวจ–ทหารมาคอยอยู่กี่คน" . . . ไม่ทันที่ดาบหมานจะตอบ ท่านพูดต่อว่า . . . "เอาขนมปังนี่แจกทหาร ๔ อัน แจกชาวบ้าน ๓ อัน แจกเด็ก ๒ อัน" ดาบหมานก็รับขนมปังจากหลวงพ่อเกษมไปแจกตามที่หลวงพ่อบอก . . . หลังจากแจกขนมปังเสร็จ พาหลวงพ่อเข้าที่พักแล้ว แม่ค้าขายของเข้ามาถามว่า "หลวงพ่อให้ขนมปังกี่อัน" ดาบหมานตอบว่า ท่านให้ ทหาร ๔ อัน ชาวบ้าน ๓ อัน เด็ก ๒ อัน แม่ค้าบอกดาบหมานว่า หลวงพ่อให้หวย ดาบหมานจึงแทงหวย ๓ ตัวบนงวดนั้นเลข "๔๓๒" ออกมาตรงๆ ได้เงิน ๙๐๐,๐๐๐ บาท จึงนำเงินถวายหลวงพ่อ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ที่เหลือดาบหมานแจกลูกศิษย์ที่ดูแลท่าน จำนวน ๑๑ คน คนละ ๑๐,๐๐๐ บ้าง ๒๐,๐๐๐ บ้าง ทั่วทุกคนเป็นที่ฮือฮากันในสุสานไตรลักษณ์ . . . นอกจากนี้ดาบหมานเล่าว่า เขาถูกหวยจากเลขหลวงพ่อเกษมหลายครั้ง รวมหลายล้านบาท ก่อนหลวงพ่อเกษมมรณภาพ ๑๕ วัน หลวงพ่อเกษมบอกปริศนาแก่ “ดาบหมาน” เขาแทงเลข "๕๑๙" ถูกอีกนับล้านบาท งวดนั้นได้เอาเงินที่ถูกหวยมาแจกลูกศิษย์หลวงพ่อ แถมด้วยแจกแม่ค้า-พ่อค้าบริเวณสุสานไตรลักษณ์แทบทุกคน จนเป็นที่เล่าลือกันมากในยุคนั้น . . . . . . . . . . [ เรื่องปืนยิงไม่ออก ข้อมูลจากคุณอำพล เจน ] คืนหนึ่งราว ๆ ตี 2 ไม่รู้นึกยังไง ไปนั่งเล่นอยู่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุบลราชธานี อยู่เพียงคนเดียว กำลังเพลิน ๆ ก็สะดุ้งโหยง เพราะเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว เห็นคนกำลังไล่ยิงกันอยู่ใกล้ ๆ คนถูกไล่ยิงไม่มีปืนก็วิ่งหนีอย่างเดียว คนไล่ยิงมีปืนก็ไล่ยิงอย่างเดียว ทั้งคนหนีและคนไล่วิ่งมาทางเดียวกัน คือตรงมาหาคุณตี๋ พอถึงตัวคุณตี๋คนหนีก็คว้าตัวคุณตี๋ไว้เป็นกำบัง โดยเอาตัวของตนเองไปซ่อนอยู่ข้างหลังคุณตี๋ซะเฉยๆ คุณตี๋นี่ก็ช่างกระไรเลย ดันตัวแข็งตกใจ ทำอะไรไม่ถูกไปเสียอีก . . . คนไล่ยิงพอตามมาถึงก็ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม จ่อปืนยิงต่อ โดยเล็งปืนผ่านตัวคุณตี๋เหมือนว่าไม่มีคุณตี๋อยู่ตรงนั้น คือมีเจตนาจะยิงอีกคนให้ตายดับคาปืนอย่างเดียว ใครจะขวางก็ไม่สน ปรากฏว่าพอเหนี่ยวไก กระสุนก็ด้านถึง 3 นัด คนวิ่งหนีเห็นท่าไม่ดีหรือจะเห็นท่าดีก็ไม่ทราบ ผลักคุณตี๋กระเด็นไปแล้วตัวเองก็หันหลังวิ่งหนีต่อไปทางโรงหนังสินราชบุตร คนไล่ยิงก็วิ่งไล่ยิงเปรี้ยง ๆ ต่อไป จนหายลับไปทั้งคู่ หลังเหตุการณ์นั้นผ่านไป คุณตี๋จึงคิดออกว่ารอดมาเพราะอะไรทั้งเนื้อทั้งตัวมีเหรียญหลวงพ่อเกษมรุ่นที่ว่านี้อยู่เพียงเหรียญเดียว . . . . . . . . . . พระคาถาที่ได้มีโอกาสคัดไว้จากหนังสือวันเกิดครบรอบอายุ ๗๗ ปี (เมื่อปี ๒๕๓๑) ของหลวงพ่อเกษม ซึ่งเป็นคาถาที่หาได้ยาก . . . . . คาถามีทั้งหมด ๔ บท ซึ่งทั้ง ๔ บทนี้ผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่อเกษม เขมโก เคยนำไปปฏิบัติแล้วได้ผลดีจนเป็นที่เลื่องลือมาแล้ว มี ดังนี้ . . . . . พระคาถาบทที่ ๑ (ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้ว่าดังนี้) "สิวะลีมหาเถรัง วันทามิหัง, สิวะลีมหาเถรัง วันทามิหัง, สิวลีมหาเถรัง วันทามิหัง มหาสิวลี เถโร มหาลาโภ โหติ มหาสิวะลี เถโร ลาภัง เม เทถะ" บทนี้ใช้สวดภาวนาประจำทั้งเช้าและเย็น เป็นคาถาโชคลาภ และเมตตามหานิยม จำทำให้ผู้ที่สวดภาวนาทำมาค้าขายดี ก่อนสวดให้ระลึกถึงพระสิวลีมหาเถระเจ้าผู้อุดมด้วยโชคลาภและหลวงพ่อเกษม เขมโก พระสุปฏิปันโนผู้ทรงความเมตตาและคุณธรรมสูง แล้วอธิษฐานขอโชคลาภตามใจปรารถนา . . . . . . . . . . พระคาถาบทที่ ๒ (ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้ว่าดังนี้) " พุทโธ วะโร สะติ มะโต สัพพะ อันตะรายา วินาสันตุ " ใช้สวดภาวนา เป็นคาถาแคล้วคลาด ป้องกันสรรพอันตรายทั้งปวง ก่อนออกจากบ้าน หรือขณะเดินทาง ขึ้นรถ ลงเรือ ไปเหนือ ล่องใต้ ให้สวด ๓ จบ ๗ จบแล้วค่อยไป อย่าลืมระลึกถึงองค์หลวงพ่อก่อนสวดทุกครั้ง . . . . . . . . . . พระคาถาบทที่ ๓ (ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้ว่าดังนี้) " ธัมโม มะมัง สุรักขะตุ " ใช้สวดให้พระคุ้มครอง ป้องกันภูตผีปิศาจ ก่อนออกจากบ้านเดินทางให้สวด ๓ จบ ๗ จบ แล้วระลึกถึงหลวงพ่อเกษม เขมโกจึงค่อยไป เด็กนอนไม่หลับ ร้องไห้งอแงในเวลากลางคืน ให้ใช้คาถาบทนี้เป่าศีรษะเด็ก ๓ ที เด็กจะนอนหลับสบาย เวลาพาเด็กเดินทางไปต่างถิ่นก็ให้ใช้คาถานี้เป่าป้องกันภูตผีปิศาจหลอกหลอน ท่านว่าชะงัดดีนักแล . . . . . . . . . . พระคาถาบทที่ ๔ (ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้ว่าดังนี้) "นะ โน นะ อันตะรายา วินาสันตุ" ใช้เป็นคาถาแคล้วคลาด ป้องกันศาสตราวุธและโจรภัย อันตรายทั้งปวง ก่อนออกจากบ้านเดินทางให้สวด ๓ จบ ๗ จบ ก่อนแล้วจึงเดินทาง ในระหว่างทางก็ให้ภาวนาไปด้วยแม้นว่าจักพบอันตรายใดๆ ก็จะแคล้วคลาด เพราะคาถานี้ยังเป็น "นะจังงัง" อีกด้วย ท่านว่าดีนัก แต่อย่าลืมระลึกถึงหลวงพ่อเกษม เขมโก ก่อนใช้ทุกครั้ง . . . . คาถาทั้ง ๔ บทนี่หลวงพ่อเกษม ท่านเมตตารจนาด้วยองค์ท่านเองทั้งสิ้น เพื่อมอบเป็นสมบัติให้กับลูกหลานในภายภาคหน้าได้ใช้กัน ขอบารมีหลวงพ่อเกษมตามรักษาทุกท่านเทอญ . . . . . . . . . . หรือหากท่านต้องการจะขอบารมีจากองค์หลวงพ่อเกษม เขมโก เพื่อความเป็นมงคลแก่ท่านและครอบครัว ให้ท่านนั่งคุกเข่าพนมมือกล่าวคำขอขมาหลวงพ่อว่า . . . "วันทามิ ภันเต สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม" กราบลง ๓ ครั้ง . . . แล้วให้ตั้งจิตอธิษฐานขอในสิ่งที่ท่านปรารถนาเถิด เสร็จแล้วให้กล่าวคำวันทาหลวงพ่อเกษม ดังนี้ . . . "วันทามิ ภันเต สัพพัง อะปะราทัง ขะมะถะ เม ภันเต มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง มะยา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ" . . . จบแล้วกราบลง ๑ ครั้ง (ห้ามเกิน ๑ ครั้ง) พร้อมกล่าวคำว่า "สังฆัง นะมามิ" (อ้างอิงมาจากหนังสือครบรอบ ๘๐ ปีหลวงพ่อเกษม) . . . แล้วท่านผู้บูชาองค์หลวงพ่อจะทราบด้วยตัวเองว่า หลวงพ่อเกษมเมตตาทุกท่าน ที่บูชาท่านด้วยความจริงใจ