เสเพลบอยชาวไร่(พิมพ์ครั้งที่ 3)
รงค์ วงษ์สวรรค์
สุดยอดภาพปกและภาพประกอบโดย ช่วง มูลพินิจ (ศิลปิน แห่งชาติ อีกท่านนึง )
เป็นหนังสือ 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน
พิมพ์ครั้ง 3
สำนักหนังสือสายคำ
พ.ศ.2531
หนา 295 หน้า
...ข้าพเจ้าในวันที่ขั้นแค้นเคยค้นหาเหรียญเพ็นนีถึงหนึ่งร้อยยี่สิบเก้าอันนับให้เขาอย่างถี่ถ้วนเพื่อแลกกับเหล้าครึ่งไพนท์ เหล้าเบอร์เบิ้นสกุลเลว แต่ชื่อมันพริ้ง Sunny Brook เราให้ชื่อมันว่าธารตะวัน ย้อนกลับมาทำมุมเฉลียงกับบานหน้าต่าง หวั่งหลุงนั่งอยู่ในคูหาตึกนั้น เขาชื่อห่... อะไรไม่มีใครเคยถาม เราเรียกเขาในฉายานั้นเพื่อจะให้ได้บรรยากาศของความเป็นจีน และจีนชรา เขาเป็นคนรีดเสื้อผู้มีฝีมือประณีต และราวกับทำงานศิลปะ เพราะเขาจะแก้มัดเสื้อที่ผ่านการ (ซักและ) รีดจากโรงงานที่ใช้เครื่องจักร เอามันมารีดทับอีกทีจนเรียบและเรี่ยม
ถัดกันอีกคูหาเป็นบาร์เท็นดิ้ง สกูล ซึ่งบรรยายสรรพคุณไว้บนบานกระจกด้านหน้าว่าเป็นโรงเรียนแห่งเดียวในรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้อำนวยการและศาสตราจารย์และเจ้าของซึ่งเป็นคนเดียวกันขาพิการ ขยับเขยื้อนกายโดยอาศัยรถเข็น เขาเป็นคนแก่โทสะร้ายบรรลัย เขาตวาดและสำรากสบถกับศิษย์ฟังน่ากลัว เขาไม่เคยรั้งรอจะสาดค็อคเทลที่ผสมเพี้ยนสูตรทิ้ง ข้าพเจ้าเสียดายมันเหลือเกิน…นั่งเหงาอยู่ริมบานหน้าต่างนั้น แล้วบางเย็นในท้ายฤดูร้อน ข้าพเจ้าก็พลันมองเห็นเผิน ข้าวโพด เดินแบกจอบกลับจากงานไร่ เขาเดินผ่านมาในความคิด แล้วเดินขึ้นมาบนแป้นพิมพ์ดีด ข้าพเจ้าเขียนโทโสชาวไร่ เป็นบทแรกในเย็นนั้นและด้วยความสงสัยในหัวใจของตัวเองอย่างยิ่ง
พริ้ง ฟักทอง เป็นคนที่สองผู้เดินผ่านมาในฐานะชายชู้กับหวาน บวบหอม เมียของเพื่อนชาวไร่ ผู้ละโมบในการประเวณีเขาจึงโดนเผิน ข้าวโพด ตีด้วยเสียมบนคอต่อจนล้มลงตายบนผืนดินหมาดฝนท้ายฤดูร้อนแห่งนครแซนแฟรนซิสโก ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าในการตายของพริ้ง ฟักทองแต่ข้าพเจ้าคงไม่โชคร้ายมากนัก เพราะในเย็นวันอื่น แจ้ง ใบตอง เฉ่ มะเขือพวง ทอง มะขามอ่อน ฝืด ตำแย ทิม กะทกรก และเพื่อนพ้องชาวบ้านไร่ของเขาก็พากันมาให้ความรื่นเริง...(คำนำในการพิมพ์ครั้งแรก) ๒๓ มีนาคม ๒๕๑๒