• ประเภทสินค้า: เมล็ดมะระขี้นก
• สไตล์: ยืนต้น
• ภูมิอากาศ: อบอุ่น
• สี: เขียว
• การใช้งาน: ลาน, ระเบียง, หลังคา, สวน
• ดินควรอุดมสมบูรณ์ แต่มีการระบายน้ำได้ดี โดยมีค่า pH 5.5 ถึง 6.7
• การใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มคุณค่าในดินทำให้ได้ผลผลิตที่ดี
• พืชชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในความร้อนและความชื้น และเมื่ออุณหภูมิในฤดูร้อนสูงขึ้น เถาวัลย์ก็จะเติบโตอย่างรวดเร็ว
• เนื่องจากเมล็ดขนาดเล็ก กระถางในร่มที่ใช้กันทั่วไปออกอากาศ หลังจากหว่านปลอกควรจะบาง อ่างแห้งควรใช้วิธีการจุ่มรดน้ำหม้อ ไม่รดน้ำโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเมล็ดชะล้าง อุณหภูมิเมล็ด 15-25 องศาเซลเซียส ประมาณสองสัปดาห์หลังจากการงอกของเมล็ด หลังจากงอกแล้วให้ต้นกล้าค่อยๆเห็นแสงสว่าง
• บรรจุภัณฑ์ประกอบด้วย: เมล็ดพืช 50 ชิ้น
• Product Type: Bitter Gourd Seeds
• Style: Perennial
• Climate: Temperate
• Color: green
• Applications: Courtyard, Balcony, roof, garden
• Soil should be fertile, but well-drained, with a pH of 5.5 to 6.7.
• Adding composted manure or compost to enrich soil results in good yields.
• This plant thrives in heat and humidity, and as summer temperatures rise, vines grow quickly.
• Because small seeds, commonly used indoor pots broadcast, after sowing the casing should be thin, dry basin should take a dip method watering pots, not directly watering, to avoid washout seed. Seeding temperature of 15 to 25 degrees Celsius. About two weeks after sowing germination. After emergence make seedlings gradually see the light.
• Packaging includes: 50pcs seeds

1. การเลือกและการงอกของเมล็ด

ก่อนปลูกเมล็ดมะระต้องงอกก่อนเลือกเมล็ดที่เต็มและไม่เสียหาย แช่ในน้ำร้อน 55 องศาเซลเซียส คนต่อไปจนอุณหภูมิของน้ำลดลงถึง 30°C หยุดคน ปล่อยทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง และรอจนกว่าเมล็ดจะงอกออกมา ถ้าแตก ให้แกะออกมาตากให้แห้ง

2. การหว่านต้นกล้า

เมื่อหว่านเมล็ดลูกแพร์ยาหม่องให้ใช้ดินสวน, ดินหญ้าถ่าน, เวอร์มิคูไลต์ และมูลมนุษย์เพื่อเตรียมดินต้นกล้า แล้วใช้ไดแอมโมเนียมฟอสเฟตเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน จากนั้นจึงระบุเมล็ดมะระขี้นกในดินต้นกล้า คลุมด้วยชั้นบาง ๆ หลังจากที่ดินได้รับการรดน้ำอย่างทั่วถึงและรอให้เมล็ดงอก

3. การปลูกและการย้ายปลูก

เมล็ดมะระจะงอกหนึ่งเดือนหลังจากหว่านเมล็ด หลังจากที่กล้าไม้หนาแล้วก็สามารถขุดขึ้นมาปลูกในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ได้ ระยะห่างระหว่างต้นไม้ประมาณ 60 ซม. หลังจากปลูกแล้วควรปลูกมะระขี้นก กรอบส่งเสริมให้ต้นกล้าปีน

4. การจัดการภาคสนาม

หลังจากย้ายปลูกจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยไนโตรเจนและปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายได้กับน้ำเต้าเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นกล้าและรดน้ำทุกสัปดาห์เพื่อให้ดินชุ่มชื้น หลังจากมะระเข้าสู่ระยะออกดอกของดอกตัวผู้แล้ว ควรเลือกละอองเรณูมาทาตามแบบดอกเพศเมียเพื่อให้ผสมเกสรสมบูรณ์และติดผล

1. Seed selection and germination

Before planting gourd seeds, they must first germinate, choose seeds that are full and without damage. Soak in 55°C hot water, continue stirring until the water temperature drops to 30°C, stop stirring, let stand for 12 hours and wait until the seeds emerge. If cracked, take them out and let them dry.

2. Sowing seedlings

When sowing balsam pear seeds, use garden soil, charcoal turf soil, vermiculite. and human droppings to prepare the seedling soil Then use diammonium phosphate to improve soil fertility. The bitter gourd seeds are then identified in the seedling soil. Cover them with a thin layer after the soil is thoroughly watered and wait for the seeds to germinate.

3. Planting and transplanting

The bitter gourd seeds germinate a month after sowing. After the seedlings have thickened, they can be dug up and planted in fertile loam. The distance between the plants is about 60 cm. After planting, the bitter gourd should be planted. The frame encourages the seedlings to climb.

4. Field management

After transplanting, it is necessary to apply nitrogen fertilizer and compostable manure to the gourd to promote seedling growth and water weekly to keep the soil moist. After the gourd enters the flowering phase of male flowers Pollen should be selected to apply according to the female flower pattern for complete pollination and fruiting of the gourd.