ปัจจุบันองค์การอาหารและยา ได้แนะนำให้รับประทานถั่ววันละ 1 กำมือเพื่อลดไขมัน cholesterol และด้วยรสชาติที่อร่อย กรอบ มัน แถมไขมันต่ำ บวกกับประโยชน์มากมาย ทำให้พิสตาชิโอเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพที่ใครหลายคนติดใจ
สรรพคุณของถั่วพิสตาชิโอ
1. ช่วยลดไขมันในเลือด
พิสตาชิโอช่วยลดไขมันในเลือดได้ดีและอาจจะเอาเข้าใช้ในโครงการควบคุมน้ำหนักอย่างได้ผลได้ด้วย
2. ช่วยเพิ่มกรดไขมันดี (HDL) และลดไขมันเลว (LDL)
งานวิจัยพบว่าการกินถั่วพิสตาชิโอเป็นอาหารว่าง 2-3 สัปดาห์จะช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ 20%เพิ่มไขมันตัวดีที่มีประโยชน์ได้ถึง 48%
3. ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
สมาคมหัวใจแห่งอเมริกาพบว่า วิตามินบี6ช่วยลดระดับโฮโมซิสเตอีนในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ
4. ช่วยลดความดันโลหิตและภาวะเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองเพราะมีโพแทสเซียมสูง
ถั่วพิสตาชิโอ 100กรัม มีโพแทสเซียมร้อยละ 34 ของความต้องการต่อวัน
5. ช่วยลดอาการเบาหวาน
มูลนิธิโรคเบาหวานโรคอ้วนและไขมัน ได้พบในการทดลองว่า การกินพวกถั่วพิสตาชิโอวันละกำมือจะช่วยลดอาการโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ การศึกษาได้ทำกับผู้ที่มีอาการของโรคเบาหวานแฝง วัยระหว่าง 25-65ปี โดยแบ่งออกเป็น 2 พวก พวกหนึ่งควบคุมอาหาร ให้ออกกำลังขนาดปานกลางและหนัก นาน45 นาที และให้กินถั่วพิสตาชิโอ ส่วนพวกที่เหลือคงทำแบบเดียวกันเว้นแต่ไม่ได้กินถั่วพิสตาชิโอเท่านั้น เป็นการเปรียบเทียบกันดู หลังจากระยะเวลาผ่านไป 6 เดือน ได้พบว่าพวกเขาเหล่านี้ล้วนมีน้ำหนัก ตัวลดลง ไขมันในลำไส้ต่ำลง และมีอาการตอบสนองกับอินซูลินมากขึ้น
6. มีไขมันต่ำ
7. ช่วยลดน้ำหนัก
พิสตาชิโอมีไฟเบอร์(ใยอาหาร)สูง ถ้าเทียบกับน้ำหนักของถั่วใน1ออนซ์ ( ถั่วพิสทาชิโอประมาณ 47เม็ด ) ให้ใยอาหารมากกว่าผักโขมครึ่งถ้วย เมื่อทานก่อนอาหารมื้อหลักจะทำให้ทานอาหารได้น้อยเพราะในกระเพาะอาหารมีใยอาหารอยู่มาก
8. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
ถั่วพิสตาชิโอมีค่าสารต้านอนุมูลอิสระโดยรวม (TAC) มากกว่าแครอท12 เท่า มากกว่าบรอคโคลี 3-4 เท่า มากกว่าบลูเบอร์รี่
9. ช่วยร่างกายสร้างภูมิต้านทานแอนติบอดีและช่วยสร้างเซลล์โลหิตใด้ดียิ่งขึ้น
10. ช่วยลดการอักเสบที่ระดับเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจ
11. ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในร่างกาย
นักวิจัยได้เก็บรวบรวมตัวอย่างอุจจาระและผลตรวจเลือดจากอาสาสมัครจากกลุ่มคนที่บริโภคถั่วพิสทาชิโอวันละ 1.5 ออนซ์เป็นประจำใน 1 ปี และพบว่าการสะสมของแบคทีเรียต่างๆน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ตามปกติถึง 3 เท่า
12. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งปอด
โดยชี้ให้เห็นว่าถั่วพิสตาชิโอช่วยเพิ่มระดับวิตามินอีธรรมชาติชนิดแกมมาโทโคเฟอรอล ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากและเซลล์มะเร็งปอด
13. ช่วยบำรุงกำลังเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
ถั่วพิสตาชิโอ เม็ดสีอมเขียวมีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงกำลังร่างกายของบุรุษเพศ นักวิจัยตุรกีได้ศึกษากับกลุ่มผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วอายุระหว่าง 38-59 ปี 17 คน ให้กินพิสตาชิโอวันละกำมือ เพื่อบำรุงเรี่ยวแรงเป็นเวลานาน 3 อาทิตย์ ได้ผลว่า พวกเขาพากันมีพละกำลังคึกคักขึ้น
14. ลดความเสี่ยงจากอาการประสาทตาเสื่อม
ลูทีนที่มีอยู่ในถั่วพิสตาชิโอเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นและลดความเสี่ยงจากอาการประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
15.ช่วยบรรเทาโรคที่เกิดจากระบบประสาทและผิวหนัง
16. ช่วยลดอาการสิวกำเริบ
มีงานวิจัยหลายชิ้นให้ผลตรงกันว่า วิตามินบี 6 ในพิสตาชิโอ ที่มีอยู่สูงมาก ช่วยลดอาการสิวกำเริบ ในช่วงก่อนมีประจำเดือนในหญิงวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี รวมถึงอาการผิดปกติในรอบเดือนด้วยเช่น อาการร้อนวูบวาบ หงุดหงิด
17. ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
18. ช่วยคลายเครียดได้ดี
เนื่องจากอุดมด้วยวิตามินบีและแมกนีเซียมช่วยสร้างเซโรโทนินทำให้อารมณ์ดี รู้สึกผ่อนคลายจิตใจสงบ และยังมี
สังกะสีช่วยในการบรรเทาความเครียดเช่นกัน
19. เป็นอาหารที่ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์
เพราะถั่วชนิดอุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กทารกในครรภ์
20. สามารถนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง สามารถใช้ทำอาหาร ทานเล่น
Pistachios have been used for food more than 8,000 years ago.
It is recommended to eat a handful of nuts per day to reduce fat and cholesterol. Pistachio is delicious, crispy, and low in fat plus many benefits. This makes pistachio one of the health foods that many people love.
Properties of pistachios
1. Reduce blood fat.
Pistachios are good at lowering blood fat and may be used as effective weight management programs.
2.It increases good fatty acids (HDL) and reduces bad cholesterol (LDL).
Research has shown that eating pistachios as a snack for 2-3 weeks can help lower cholesterol.
3. Helps reduce the risk of heart disease.
Vitamin B6 reduces the level of homocysteine in the blood Which is the cause of heart disease.
4. Helps to lower blood pressure and risk of stroke because of high potassium.
100 grams of pistachios contain 34 percent of the daily potassium needs.
5. Helps reduce diabetes symptoms
Eating a handful of pistachios a day will help reduce diabetes symptoms.
6. Low fat
7.Helps lose weight
Pistachios are high in fiber (dietary fiber). Compared to the weight of nuts, 1 ounce (about 47 pistachios) provides more fiber than half a cup of spinach. When taken before the main meal, you can eat less food because the stomach contains a lot of fiber.
8. Helps fight free radicals
Pistachios have a total antioxidant value (TAC) 12 times more than carrots, 3-4 times more than broccoli and blueberries.
9. Helps the body build antibodies and help build better blood cells
10. Helps reduce inflammation at the cellular level. Which is one of the causes of heart disease
11. Helps reduce the accumulation of bacteria in the body
12. Reduces the risk of developing prostate and lung cancer.
pistachios increase the level of natural vitamin E, gamma tocopherol, Which inhibits the growth of prostate and lung cancer cells,
13. Helps to improve sexual performance
Pistachios The greenish pigment is beneficial to nourish the body of males.
14. Reduce the risk of optic nerve damage
The lutein contained in pistachios increases visual acuity and reduces the risk of optic neuropathy in the elderly.
15. Help alleviate diseases caused by the nervous system and skin.
16. Helps reduce acne recurrences.
Several studies have shown that vitamin B6 in pistachio is very high. Helps reduce recurrent acne symptoms. During the pre-menstruation period in adolescent girls as well. Including abnormal symptoms in the menstrual cycle, such as Hot flushes
17. Helps to maintain and strengthen bones and teeth, reduce the risk of osteoporosis.
18. It helps relieve stress well
It is rich in B vitamins and magnesium to help build serotonin and improve mood. Zinc helps in relieving stress as well.
19. It is good food for pregnant women.
Pistachio is rich in folic acid, which is very essential for the unborn child.
20. Can be processed in many things. Can be used to make appetizers and more...