จะมีรสหวานกลมกล่อม เป็นยาฤทธิ์กลางๆ สามารถบำรุงพลังส่วนกลาง บำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร แก้ไอ ขับร้อน ขับพิษ ขับเสมหะ ช่วยควบคุมระบบน้ำย่อย ของกระเพาะอาหาร รักษาอาการอ่อนเพลีย ระบบย่อยอาหารที่อ่อนแอ ไอมีเสมหะมาก บำรุงหัวใจ โรคภูมิแพ้ แผลเน่าเปื่อย ปัสสวะแสบขัด กระเพาะอาหารมีการปวดเกร็ง
ประโยชน์ของชะเอมเทศ
รากชะเอมเทศมีสารสำคัญคือสาร Glycyrrhizin (Glycyrrhizic acid หรือ Glycyrrhizinic acid) และสาร 24-hydroxyglyrrhizin โดยสารเหล่านี้เป็นสารที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายประมาณ 50-100 เท่า จึงถูกนำมาใช้เพื่อแต่งรสชาติอาหาร ใช้แต่งรสหวานในขนมและลูกอม ใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพร ใช้แต่งกลิ่นรสยาให้หวานและช่วยกลบรสยา (เนื่องจากในรากจะมีแป้งและความหวานอยู่มาก ควรเก็บไว้อย่าให้แมลงหรือมอดมากิน เพราะถ้าผุจะทำให้เสื่อมคุณภาพลงได้)
ชะเอมเทศยังสามารถนำมาใช้เป็นไวต์เทนนิงจากธรรมชาติได้อีกด้วย โดยสารสกัดที่ได้จากรากนั้นมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยลดความเข้มของเม็ดสี ลดฝ้ากระบนใบหน้า ช่วยทำให้ผิวหน้าสว่างกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยลดและต้านการอักเสบของผิว จึงสามารถนำมาใช้ทดแทนสารเคมีที่ช่วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้ แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวหน้าและไม่ก่อให้เกิดเป็นสิวอุดตันอีกด้วย[
เนื่องจากชะเอมเทศมีสรรพคุณช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับลำคอและกล่องเสียง จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักร้อง นักพูด หรือผู้ที่ต้องใช้เสียงเป็นประจำ เนื่องจากชะเอมเทศนั้นจะช่วยกระตุ้นการสร้างสารหล่อลื่นในบริเวณลำคอเหนือกล่องเสียงได้เป็นอย่างดี
ชะเอมเทศเป็นสมุนไพรที่นักกีฬาหรือผู้ใช้แรงงานนิยม โดยมักถูกนำไปเป็นส่วนผสมในตำรับยาสมุนไพรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตำรับยาบำรุงกำลังไปจนถึงตำรับยาทั่วไป เนื่องจากชะเอมเทศเป็นสมุนไพรที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รวมไปถึงการช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบย่อยอาหาร ช่วยในระบบการเผาผลาญภายในร่างกาย ช่วยในเรื่องการดูดซึมสารอาหาร และยังช่วยในการสร้างเม็ดเลือดอีกด้วย