- กำลังไฟฟ้ามากถึง 2,000 วัตต์ มีประสิทธิภาพสูงจึงทำความร้อนได้อย่างรวดเร็ว
- พลังไอน้ำพิเศษสูงสุดถึง 100 กรัม ช่วยขจัดรอยยับที่รีดยาก แทรกซึมลึกลงไปยังเนื้อผ้า เพื่อขจัดรอยยับที่ยากต่อการรีดได้ง่าย
- พลังไอน้ำสูงสุด 25 กรัม/นาที เพื่อประสิทธิภาพที่คงที่ดีเยี่ยม พลังไอน้ำที่ต่อเนื่องแทรกซึมเนื้อผ้าได้อย่างดี
- แผ่นความร้อนไม่ติดเนื้อผ้าเพื่อให้รีดลื่นได้ง่าย
- แผ่นความร้อนปลายแหลมบางเป็น 3 เท่า เพื่อการควบคุมและมองเห็นได้ดีที่สุด
- แท็งค์น้ำขนาดใหญ่ถึง 270 มล. เพื่อการรีดผ้าได้มากขึ้นต่อการเติมน้ำหนึ่งครั้ง
- ฟังก์ชันพลังไอน้ำในแนวตั้งช่วยคืนความสดชื่นให้เสื้อของคุณได้จากที่แขวน และยังขจัดรอยยับจากผ้าม่านที่แขวนอยู่ได้ โดยไม่ต้องใช้โต๊ะรองรีด
- ระบบขจัดตะกรันเพื่อการทำงานของไอน้ำที่ใช้งานได้ยาวนาน โดยมีฟังก์ชันทำความสะอาด Calc-Clean ในตัวเพื่อขจัดแคลเซียมที่ก่อตัวขึ้น หรือคราบหินปูน เพื่อคงประสิทธิภาพสูงสุดเอาไว้
- เสียบปลั๊กไฟเข้ากับเต้ารับไฟฟ้า หมุนหน้าปัดเพื่อปรับความร้อนให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละชนิดตามต้องการ
- เพื่อให้แน่ใจว่ากระแสไฟฟ้าเข้ามาที่ตัวเตารีด ทิ้งเตารีดให้ร้อนโดยให้อยู่ในแนวดิ่งบนฐานรับประมาณ 2 นาที ก่อนรีด
- ไฟสัญญาณจะติดเมื่อเปิดสวิทซ์เตารีด และจะดับเมื่อเตารีดร้อนถึงอุณหภูมิที่ได้เลือกไว้บนหน้าปัดตามเนื้อผ้าแต่ละชนิด ไฟจะติดอยู่จนกระทั่งความร้อนได้ระดับอุณหภูมิที่เลือกไว้
-อุณหภูมิลดลงเทอร์โมแตตจะเป็นตัวควบคุมปรับความร้อนโดยอัตโนมัติ ตามอุณหภูมิต่างๆที่ได้เลือกไว้บนหน้าปัดแสดงชนิดของผ้า
- ก่อนอื่นควรรีดผ้าพวกใยสังเคราะห์เคมีก่อนในอุณหภูมิที่ต่ำแล้วจึงไปรีดผ้าประเภทขนสัตว์, ฝ้าย และลินินตามลำดับในขณะที่เตารีดร้อนมากขึ้น เตารีดจะร้อนเร็วกว่าที่จะเย็นลง
- เผื่อระยะเวลาให้เตารีดได้ร้อนก่อน เมื่อเปลี่ยนจากอุณหภูมิต่ำไปอุณหภูมิสูงขึ้น และในทางตรงกันข้ามรอสักครู่ขณะที่เปลี่ยนให้เย็นลง
- เมื่อเลิกใช้รีดแล้วให้หมุนปุ่มปรับความร้อนไปที่เลข “0” แล้วดึงปลั๊กไฟออก
- ควรเก็บในที่แห้งห่างจากความชื้น
- ดูแลรักษาตามคู่มือการใช้งานอย่างถูกต้อง