SC ต้นไม้ต้นสุดท้าย The Last Tree หนังสือแปล นิทานเด็ก
ข้อมูลสินค้า
ราคา
207.00 บาท
แบรนด์
No Brand
ร้านค้า
- ผู้เขียน : เอมิลี ฮาเวิร์ทบูท
- สำนักพิมพ์ : SandClock Books
- หมวดหมู่ : หนังสือเด็ก หนังสือภาพ นิทาน
- จำนวนหน้า : 32
- ขนาด : 27.9 x 22 x 0.4 CM
- น้ำหนัก : 0.194 KG
- ต้นไม้ต้นสุดท้าย The Last Tree
- เราพูดเสมอว่าเด็กยุคนี้ฉลาดกว่าเราเยอะ และต้องการโจทย์ที่ท้าทายเพื่อมาประลองกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ซึ่งหนังสือเรื่อง “ต้นไม้ต้นสุดท้าย” มีให้หมด
- กาลครั้งหนึ่ง “ผองเพื่อนกลุ่มหนึ่ง” รอนแรมหาที่อยู่อาศัย...
- เราเปิดเรื่องกันด้วยมิตรภาพของผองเพื่อน ที่ร่วมเดินทางเพื่อหาที่อยู่อาศัยอันแสนสุขด้วยกัน ซึ่งจริงๆ ก็เจอแล้วตั้งแต่หน้าที่สอง แต่ถ้าหากเรื่องจบตรงนี้ก็คงจะเป็น happily ever after ที่ไม่ท้าทายพอสำหรับเด็กยุคนี้
- นิทานเรื่องนี้จึงต้องพาไปต่อ เพื่อให้เด็กได้รับรู้ว่าชีวิตจริงของเรานั้น “มีปัญหาเสมอ” ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ให้แค่ “วิธีแก้ปัญหา” แต่นำเสนอ “ทัศนคติที่ถูกต้อง” ที่จะนำไปสู่วิธีแก้ปัญหาอย่างมีปัญญาและเข้าถึงคุณค่าของชีวิตที่แท้จริง เมื่อมีปัญหา เราก็แก้ไข แต่จะแก้ไขอย่างไรถึงเข้าถึงคุณค่าที่แท้
- ผองเพื่อนมัวแต่พยายามหาทางแก้ไขเพื่อปกป้องร่างกาย และรักษาข้าวของ “ของตนเอง” ซึ่งก็ไม่ผิด แต่...ยิ่งคิดถึงแต่ตนเอง ก็ยิ่งตักตวงเอาจากธรรมชาติ ยิ่งคิดถึงแต่ตนเอง ก็ยิ่งตักตวงเอาจากผู้อื่นจากป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์ ก็เหลือต้นไม้เพียงต้นเดียว จากผองเพื่อนที่เคยรักใคร่ ก็กลายเป็นคนแปลกหน้า สุดท้ายก็เหลือเพียงใจที่แห้งแล้ง เช่นเดียวกันกับผืนป่า
- นิทานเล่มนี้ได้ย่อประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาให้เด็กๆ ได้รับรู้ ส่วนพ่อแม่ก็ได้ทบทวนตนเอง โลกยุคค้นพบถิ่นที่อยู่อาศัย และยุคพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้เรามีชีวิตความเป็นอยู่เชิงกายภาพที่ดีกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า แต่โลกก็กำลังพังจากการพัฒนาแบบนี้ เช่นเดียวกับใจของมนุษย์เองที่กำลังแห้งเหี่ยวและหวาดกลัว
- แน่นอนว่า ก่อนที่เราจะเข้าถึง “ทัศนคติที่ถูกต้อง” เราก็ต้องผิดพลาดมาก่อน ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องใหญ่ หนังสือชี้ให้เห็นว่า ความสำคัญอยู่ที่การ #ยอมรับความผิดพลาดและพร้อมแก้ไข ต่างหาก สิ่งที่น่าภูมิใจก็คือคนที่สะท้อนให้เห็นความผิดพลาดในหนังสือเล่มนี้ก็คือ “เด็กๆ”
- หากเราเปิดใจ นั่งมองเด็กๆ แล้วพิจารณาดีๆ พวกเขาจะชวนเรากลับมาตั้งต้นใหม่เสมอว่า #ความหมายของชีวิตที่ดี คืออะไรกันแน่ ความสุขที่เราเคยมีง่ายๆ ความสัมพันธ์ที่เราเคยสร้างได้อย่างง่ายๆ เมื่อครั้งยังเด็ก ทำไมมันลดน้อยถอยลงไป บางทีหากเราหยุดมองและฟังเด็กๆ บ้าง เราจะเรียนรู้จากพวกเขาได้อีกมาก
- หนังสือเล่มนี้ใช้ความเป็นเด็กสอนผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกันก็บอกเด็กๆ ว่า สิ่งที่เขามี เขาเป็น ทั้งความจริงใจ ความขี้เล่น ความปรารถนาดี ความอดทน และการปรับตัวง่าย เป็นเนื้อแท้ที่ดีงามของมนุษย์ เป็นทัศนคติที่ดีที่เขาควรรักษาไว้เผื่อสร้างโลกใหม่ให้ดีกว่าเดิม
- เนื้อหาปกหลัง : ต้นไม้ต้นสุดท้าย The Last Tree
- กาลครั้งหนึ่ง ผองเพื่อนกลุ่มหนึ่งพากันค้นหาที่อยู่อาศัยเหมาะๆ และแล้วจึงตัดสินใจตั้งรกรากกันในป่าแสนบริสุทธิ์ ที่นี่ลมพัดเย็นสบาย แสงแดดส่องผ่านใบไม้รำไร แต่ไม่ช้าพวกเขาก็เริ่มตัดต้นไม้เพื่อเอามาทำฟืน เพิงพัก และบ้านช่อง ต้นไม้โดนตัดต้นแล้วต้นเล่า จนเหลืออยู่เพียงต้นเดียว เด็กๆ จะช่วยต้นไม้ต้นสุดท้ายนี้ไว้ได้หรือไม่?
- #ต้นไม้ต้นสุดท้าย #TheLastTree #นิทานเด็ก #นิทานภาพ #นิทานแปล #ต้นไม้ #SandClock #เอมิลีฮาเวิร
ผู้เขียน : เอมิลี ฮาเวิร์ทบูท
สำนักพิมพ์ : SandClock Books
หมวดหมู่ : หนังสือเด็ก หนังสือภาพ นิทาน
จำนวนหน้า : 32
ขนาด : 27.9 x 22 x 0.4 CM
น้ำหนัก : 0.194 KG
ต้นไม้ต้นสุดท้าย The Last Tree
เราพูดเสมอว่าเด็กยุคนี้ฉลาดกว่าเราเยอะ และต้องการโจทย์ที่ท้าทายเพื่อมาประลองกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ซึ่งหนังสือเรื่อง “ต้นไม้ต้นสุดท้าย” มีให้หมด
กาลครั้งหนึ่ง “ผองเพื่อนกลุ่มหนึ่ง” รอนแรมหาที่อยู่อาศัย...
เราเปิดเรื่องกันด้วยมิตรภาพของผองเพื่อน ที่ร่วมเดินทางเพื่อหาที่อยู่อาศัยอันแสนสุขด้วยกัน ซึ่งจริงๆ ก็เจอแล้วตั้งแต่หน้าที่สอง แต่ถ้าหากเรื่องจบตรงนี้ก็คงจะเป็น happily ever after ที่ไม่ท้าทายพอสำหรับเด็กยุคนี้
นิทานเรื่องนี้จึงต้องพาไปต่อ เพื่อให้เด็กได้รับรู้ว่าชีวิตจริงของเรานั้น “มีปัญหาเสมอ” ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ให้แค่ “วิธีแก้ปัญหา” แต่นำเสนอ “ทัศนคติที่ถูกต้อง” ที่จะนำไปสู่วิธีแก้ปัญหาอย่างมีปัญญาและเข้าถึงคุณค่าของชีวิตที่แท้จริง เมื่อมีปัญหา เราก็แก้ไข แต่จะแก้ไขอย่างไรถึงเข้าถึงคุณค่าที่แท้
ผองเพื่อนมัวแต่พยายามหาทางแก้ไขเพื่อปกป้องร่างกาย และรักษาข้าวของ “ของตนเอง” ซึ่งก็ไม่ผิด แต่...ยิ่งคิดถึงแต่ตนเอง ก็ยิ่งตักตวงเอาจากธรรมชาติ ยิ่งคิดถึงแต่ตนเอง ก็ยิ่งตักตวงเอาจากผู้อื่นจากป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์ ก็เหลือต้นไม้เพียงต้นเดียว จากผองเพื่อนที่เคยรักใคร่ ก็กลายเป็นคนแปลกหน้า สุดท้ายก็เหลือเพียงใจที่แห้งแล้ง เช่นเดียวกันกับผืนป่า
นิทานเล่มนี้ได้ย่อประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาให้เด็กๆ ได้รับรู้ ส่วนพ่อแม่ก็ได้ทบทวนตนเอง โลกยุคค้นพบถิ่นที่อยู่อาศัย และยุคพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้เรามีชีวิตความเป็นอยู่เชิงกายภาพที่ดีกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า แต่โลกก็กำลังพังจากการพัฒนาแบบนี้ เช่นเดียวกับใจของมนุษย์เองที่กำลังแห้งเหี่ยวและหวาดกลัว
แน่นอนว่า ก่อนที่เราจะเข้าถึง “ทัศนคติที่ถูกต้อง” เราก็ต้องผิดพลาดมาก่อน ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องใหญ่ หนังสือชี้ให้เห็นว่า ความสำคัญอยู่ที่การ #ยอมรับความผิดพลาดและพร้อมแก้ไข ต่างหาก สิ่งที่น่าภูมิใจก็คือคนที่สะท้อนให้เห็นความผิดพลาดในหนังสือเล่มนี้ก็คือ “เด็กๆ”
หากเราเปิดใจ นั่งมองเด็กๆ แล้วพิจารณาดีๆ พวกเขาจะชวนเรากลับมาตั้งต้นใหม่เสมอว่า #ความหมายของชีวิตที่ดี คืออะไรกันแน่ ความสุขที่เราเคยมีง่ายๆ ความสัมพันธ์ที่เราเคยสร้างได้อย่างง่ายๆ เมื่อครั้งยังเด็ก ทำไมมันลดน้อยถอยลงไป บางทีหากเราหยุดมองและฟังเด็กๆ บ้าง เราจะเรียนรู้จากพวกเขาได้อีกมาก
หนังสือเล่มนี้ใช้ความเป็นเด็กสอนผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกันก็บอกเด็กๆ ว่า สิ่งที่เขามี เขาเป็น ทั้งความจริงใจ ความขี้เล่น ความปรารถนาดี ความอดทน และการปรับตัวง่าย เป็นเนื้อแท้ที่ดีงามของมนุษย์ เป็นทัศนคติที่ดีที่เขาควรรักษาไว้เผื่อสร้างโลกใหม่ให้ดีกว่าเดิม
เนื้อหาปกหลัง : ต้นไม้ต้นสุดท้าย The Last Tree
กาลครั้งหนึ่ง ผองเพื่อนกลุ่มหนึ่งพากันค้นหาที่อยู่อาศัยเหมาะๆ และแล้วจึงตัดสินใจตั้งรกรากกันในป่าแสนบริสุทธิ์ ที่นี่ลมพัดเย็นสบาย แสงแดดส่องผ่านใบไม้รำไร แต่ไม่ช้าพวกเขาก็เริ่มตัดต้นไม้เพื่อเอามาทำฟืน เพิงพัก และบ้านช่อง ต้นไม้โดนตัดต้นแล้วต้นเล่า จนเหลืออยู่เพียงต้นเดียว เด็กๆ จะช่วยต้นไม้ต้นสุดท้ายนี้ไว้ได้หรือไม่?
#ต้นไม้ต้นสุดท้าย #TheLastTree #นิทานเด็ก #นิทานภาพ #นิทานแปล #ต้นไม้ #SandClock #เอมิลีฮาเวิร