เหรียญเจ้าพ่อพญาแล รุ่น ประวัติศาสตร์ไตรภาคี สร้างศาลหลักเมือง จ.ชัยภูมิ ปี 2558 เนื้อทองแดงผิวไฟ
ตอกโค้ต มีหมายเลขกำกับ ทุกเหรียญ มาพร้อมกล่องเดิม
รุ่นประวัติศาสตร์ไตรภาคีเจตนาการจัดสร้างดีเยี่ยม เพื่อหาทุนจัดสร้างศาลหลักเมืองจังหวัดชัยภูมิ และหอชัยภูมิ เข้มขลังสุดๆ ด้วยพิธีอธิฐานจิตพิธีใหญ่ 3 วาระ มีเกจิอาจารย์ดัง ของจังหวัดชัยภูมิ และดังดับระดับประเทศอยู่ในขณะนี้ เช่น หลวงพ่อทอง วัดบ้านไร่ สุทธสีโล (ศิษย์เอก ลพ.คูณ ปริสุทโธ) หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม เป็นต้น
จังหวัดชัยภูมิ นับเป็นดินแดนโบราณคดีที่มีชุมชนหนาแน่นอยู่อาศัยมาตั้งแต่ครั้งก่อนประวัติศาสตร์ จากร่องรอยของการค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยหิน ภาพวาดเขียนสีตามผนังถ้ำ โครงกระดูกมนุษย์โบราณ ฯลฯ จึงเป็นข้อยืนยันได้ว่าดินแดนถิ่นนี้ได้มีพัฒนาการทางด้านสังคมขอมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์มากว่า 2000-5000
ชุมชนโบราณที่รับวัฒนธรรมขอมสมัยเมืองพระนคร (พุทธศตวรรษที่ 16-18) (7 102 3 15
พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 102 121
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมืองชัยภูมิปรากฏในทำเนียบเมืองแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่าเป็นเมืองที่ขึ้นกับเมืองนครราชสีมา แตต่อมาผู้คนได้อพยพไปตั้งหลักแหล่งทำมาหากินที่อื่น ปล่อยเมืองชัยภูมิให้เป็นเมืองร้าง เมืองชัยภูมิกลับมาปรากฏชื่ออีกครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ราวปี พ.ศ.2360 2362 (
ต่อมาขุนภักดีชุมพล (แล) เห็นว่าบ้านโนนน้ำอ้อมเริ่มแออัดและขาดแคลนน้ำ จึงจำต้องหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ ปรากฏว่าอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับบ้านโนนน้ำอ้อม ดังนั้นในปี พ.ศ.2365
ในปี พ.ศ.2369
เจ้าสุทธิสารหลังจากที่ยกทัพถึงเมืองชัยภูมิแล้วนั้น ได้เกลี้ยกล่อมให้พระยาภักดีชุมพล (แล) เป็นพวก แต่พระยาภักดีชุมพลไม่ยอม ด้วยยังจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้พวกเจ้าอนุวงศ์โกรธมาก จึงฆ่าพระยาภักดีชุมพลเสียที่บ้านหนองปลาเฒ่า ซึ่งต่อมาชาวบ้านได้ระลึกถึงพระคุณท่านจึงได้พร้อมใจกันสร้างศาลขึ้น ณ บริเวณนั้น บัดนี้ทางราชการได้สร้างศาลขึ้นใหม่เป็นศาลาทรงไทย ชื่อว่า ศาลาพระยาภักดีชุมพล (แล) มีรูปหล่อของท่านอยู่ภายในเป็นที่เคารพกราบไหว้ ถือว่าเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ อยู่ห่างจากที่ตั้งศาลากลางจังหวัดประมาณ 3