พระนาคปรกแม่ชีบุญเรือน
พระนาคปรกแม่ชีบุญเรือน
ข้อมูลสินค้า
ราคา
699.00 299.00 บาท
รีวิว
8 ครั้ง
แบรนด์
No Brand
ร้านค้า

อยากขาย!!! พระสมเด็จมงคลมหาลาภ นาคปรก พิมพ์ใหญ่ แม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธฯ *** พระสมเด็จมงคลมหาลาภ 2499 แม่ชีบุญเรือน *** *** หลังยันต์เฑาะมีรัศมี บนดอกบัว (พิมพ์กลาง) *** *** พระนาคปรกสี่เหลี่ยม เนื้อผงขาว *** *** พิมพ์ใหญ่กลางเล็ก จำนวนสร้าง 84,000 องค์ *** *** ผิวเดิมๆ ไม่หัก ไม่ซ่อม *** *** รับประกันพระแท้ *** พระสมเด็จมงคลมหาลาภ จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงามสมโภชพระพุทธชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่ วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ 5-31 มีนาคม พ.ศ. 2499 เป็นปูชนียวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมงคลเหตุเครื่องเจริญอายุ วรรณะ พละ แลลาภยศ สรรเสริญ สมบัติเกียรติศักดิ์ แลคุณธรรม คือเป็นสิ่งสำคัญที่จะให้เข้าถึงอิทธิผลนั้นๆ อันนับว่าเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิต สามารถให้ถึงภาวะอันเป็นอิสระเต็มที่ มีความเกษมนิรันดร พระรัชชมงคลมุนี (พระมหารัชชมังคลาจารย์) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ได้มอบให้ “พระชอบ สัมมาจารี” วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพมหานคร สร้าง เพื่อนำมาแจกในงานสมโภชพระประธานโดยส่ง “ผงอิทธิเจ ผงพุทธคุณต่าง ๆ เป็นแท่ง ๆ ประทับตรา “วัดสัมพันธวงศ์” ให้นำมาผสม โดยเรียก “พระนาคปรก” นี้ว่า “พระมงคลมหาลาภ” ซึ่งมีชื่อของท่านคือ “พระรัชชมงคลมุนี” อยู่ในชื่อพระด้วย ในพิธีนี้แม่ชีบุญเรือนได้อธิษฐานจิตร่วมอยู่ในพิธีด้วย และหลวงพ่อลี วัดอโศกการาม จ.สมุทรปราการ องค์ประสานงานพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ได้บอกศิษย์ว่า “พระผงนี้ดีมาก มีรังสี สีขาว และเหลืองกระจายออกสว่างไสว” ในพิธีการครั้งนี้ได้มีการประกอบพิธีบรรจุพุทธมนต์เป็นพิเศษที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งยังไม่เคยเห็นทำที่ไหน คือจัดที่บูชาพร้อมเครื่องสังเวยต่างๆ มีเทียน ธูป ข้าวตอก ดอกไม้ 7 สี และอาหารผลไม้ถึงอย่าละ 375 ที่มีเบญจา มีเศวตฉัตร 9 ชั้น สูง 6 ศอก8 ต้น บายศรีเงิน บายศรีทอง 9 ชั้น สูง 6 ศอก อย่างละ 8 ต้น การบรรจุพุทธมนต์ลงไปในน้ำมนต์ และผงที่จะนำมาสร้างพระเครื่องนั้น ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ ร่วมทำพิธีนั่งปรกพุทธาภิเษกพระประธาน และพระเครื่องต่าง ๆ มีพระมงคลมหาลาภ พระพุทโธน้อย เป็นต้น โดยทำพิธี 18 วัน 18 คืน เช่น พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศวิหาร พระวรเวทย์คุณาจารย์ (เมี้ยน ปภสสโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระมหารัชชมังคลาจารย์ พระมงคลเทพมุนนี จนฺทสโร (สด มีแก้วน้อย) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระครูวินัยธรเฟื่อง (ญาณปปทีโป) หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ (ช่วยทำพิธีและประสานงานด้วย) พระสะอาด อภิวัฑฒโน วัดสัมพันธวงศ์ พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน พระชอบ สัมมจารี วัดอาวุธวิธกสิตาราม ธนบุรี หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดุล อตุโล วัดบูรพาราม หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้น พร้อมด้วยบันจุเทพมนต์พรหมมนต์ โดยเชิญเทพแลพรหมผู้มีชื่อเสียงเก่าๆ มาเข้าพิธีอธิษฐานบันจุมนต์ลงด้วย และบรรจุมนต์โยคีโดยโยคีฮาเร็บ (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) ผู้มีชื่อเสียงและ พ.ต.อ.ชะลอ อุทกภาชน์ ผู้เป็นศิษย์เป็นผู้ทำพิธีบรรจุ เสร็จพิธีแล้ว จึงได้ใช้ผงประสมทำเป็นองค์พระได้มงคลฤกษ์ จึงได้ทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องนั้นอีกครั้งหนึ่ง พระเครื่องที่จะทำพิธีปลุกเสกนั้น ห่อด้วยผ้าขาว 7 ชั้น ผ้าเขียว 7 ชั้น พิธีนอกนั้นเหมือนเมื่อบรรจุมนต์ลงในผงแลน้ำที่ จะสร้างพระ ตั้งน้ำมนต์สำหรับแจกผู้ที่ต้องการซึ่งมาร่วมพิธี 40 ตุ่ม แต่ไม่ได้กล่าวถึงผงที่นำมาประสมสร้างพระนั้นว่ามีอะไรบ้าง เนื่องด้วยผงที่นำมาประสมสร้างพระเครื่องนั้น ให้ท่านทราบไว้ด้วย ดังต่อไปนี้ 1. ผงขอจากพระอาจารย์ต่างๆ ที่ท่านทำและรวบรวมไว้หลายวัด เช่น วัดพระเชตุพน วัดตรีทศเทพ และวัดสัมพันธวงศ์ ฯลฯ ผงแป้งที่ทำเลผงจากพระของเก่าบ้าง 2. ผงพระที่ทำด้วยว่านต่างๆ ที่นิยมว่าเป็นมงคลศักดิ์สิทธิ์ 108 อย่าง ทำจากดอกไม้บูชาพระต่างๆ 108 อย่าง 3. ผงที่ทำด้วยดินจากท่าน้ำ 7 ท่าและจากสระน้ำ 7 สระ 4. ผงที่ทำด้วยเอาคัมภีร์เก่าๆ ทั้งใบลานและสมุดข่อยมาเผาบด ตั้งแต่หมายเลข 1-5 นี้ประสมสร้างพระผงรุ่นก่อนแล้วเอามาบดผสมเข้ากัน กับผงใหม่ที่นำมาเข้าพิธีด้วย 5. ผงที่ได้จากดินสังเวยชนียสถาน 4 แห่งในอินเดียคือ 5.1 ดินที่ลุมพินีระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเทวทหะ ซึงเป็นที่ประสูติของพระพุทธเจ้า 5.2 ดินที่มหาโพธิ์ พุทธคยาที่ตรัสรู้ 5.3 ดินที่สารนาถ มฤคทายวัน เมืองพาราณสี ซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจักร 5.4 ดินที่กุสินารา ซึ่งเป็นที่พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพาน 6.ดินจากสถานที่สำคัญ 9 แห่ง คือดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จเสวยวิมุตติสุข 7 แห่ง บริเวณพุทธคยา มีที่รัตนะจงกลม แลที่สระมุจลิน เป็นต้น แลดินที่พระคันธกุฏีที่ประทับของพระพุทธเจ้าที่บนเขา คิชกูฏ (เมืองราชคฤห์) ดินที่ที่พระคันธกุฏีที่ประทับในเมืองสาวัตถี ซึ่งพระครูสุภารพินิจ (โทน สุขพโล) วัดสัมพันธวงศ์ ได้ไปนมัสการปูชนียสถานนั้นๆ และได้นำมาเมื่อปี พ.ศ.2497 ผู้ที่มีพระเครื่องแบบพุทธมงคลมหาลาภ พระแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นต้นไว้บูชา เป็นอันได้ระลึกถึงแลบูชา สังเวชนียสถาน 7.ผงปูนหินขาว ราชบุรี 8.ผงปูนซีเมนต์ขาว และนอกจากนี้ ก็ยังมีดินเหนียวอย่างดี สีเหลือง และน้ำอ้อยเป็นต้น ผง เหล่านี้นั้น ประสมกันมากบ้างน้อยมาก แล้วบดให้ละเอียดแร่งกรองด้วยผ้าป่าน สำเร็จเป็นผงที่จะสร้างพระเครื่องใช้น้ำมนต์ที่ทำไว้ นั้นประสมกับของที่จะทำพระให้ พระมีคุณภาพดี สวยงามทนทาน ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ประสมผงพิมพ์เป็นรูปพระพุทธมงคลมหาลาภบ้าง สมเด็จบ้าง ส่วนพระเครื่องอื่นสร้างด้วยดินประสมผงเผาแล้วนำมา เข้าพิธีปลุกเสกในคราวเดียวกันกับพระพุทธมงคลมหาลาภ เสร็จแล้วแจกจ่ายในงานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี พร้อมด้วยพระอัครสาวก ทั้งนี้ได้รับการปลุกเสกซ้ำที่วัดสารนาทธรรมาราม จังหวัดระยองอีกครั้ง โดยนิมนต์พระสายระยอง และสายกรรมฐาน ได้แก่ หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง อาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม เป็นต้น ในการต่อมา พระเครื่องเหล่านี้ เมื่อแจกจ่ายแก่ผู้จำนงในงานผูกพัทธสีมา อุโบสถวัดสารนาถธรรมมารามแล้ว ก็จะได้จัดการทำบันจุในอุโบสถ หรือเจดีย์ตามสมควรเพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่สารนาถธรรมมาราม อันเป็นมหาปูชนียะสถานในกาลต่อไป นับตั้งแต่ที่เคยสัมผัสพระมานั้น พระที่สุดแห่งบรรดาพระเครื่องที่ดี "ผู้รู้แจ้ง" ซึ่งเป็นถึงระดับพระอริยะสงฆ์ผู้ทรงคุณธรรมและอภิญญาจิตชั้นสูงสุดให้การยอมรับและยกย่องอย่างกว้างขวางมากที่สุด ก็ไม่เห็นจะยิ่งไปกว่า "พระมงคลมหาลาภ" ของวัดสารนาถธรรมมาราม อ.แกลง จ.ระยอง ที่พระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิเทสโก) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์เป็นประธานจัดสร้างในงานฉลองพระพุทโธภาสชินราช จอมมุนี พระประธานประจำพระอุโบสถ วัดสารนาถธรรมมารามที่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมจัดสร้าง,อธิษฐานธรรมถวาย ,หลวงพ่อลี วัดอโศการาม เป็นเจ้าพิธีฝ่ายบรรพชิต ,โยคีฮาเล็บ (อ.ชื่น จันทร์เพ็ชร์) เป็นเจ้าพิธีฝ่ายพรหมศาสตร์ "เฮ็ดหยังแรงจังซี่ "ท่าน พ่อลี วัดอโศการาม สมุทรปราการ อุทานเมื่อครั้งยังเป็นเพียงผง และท่านได้ขอพระหักไปสร้างพระโพธิจักรฉลอง 25 ศตวรรษที่วัดอโศการาม 1 บาตร "สมัยแรกที่ได้เอาพระมงคลมหาลาภบรรจุไว้ใต้ฐานพระในกุฏิ เห็นมีรัศมีสีเขียวพุ่งออกมาเป็นวาเลย" พระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิเทสโก) วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร) "เขียวมาเชียวนะ" หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนทักหลานคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำที่ห้อยพระมงคลมหาลาภไปทำบุญกับท่านครั้งหนึ่ง) "พระองค์หนึ่ง เท่ากับพระธาตุองค์หนึ่ง เมื่อนำมาไหว้พระสวดมนต์ สามารถสื่อกับเทพพรหมได้ทุกสวรรค์ชั้นฟ้าจรดบาดาลเลยทีเดียว" คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ แม่ชีอรหันต์แห่งคำชะอี ที่หลวงปู่ชอบรับรองว่า สามารถเหาะไปสวรรค์ได้ทั้งกายเนื้อ) "พระนี้ แรงยิ่งกว่าพระกรุทุกกรุเท่าที่หลวงปู่เคยสัมผัสพลังมา แม้พระรอดมหาวันก็ไม่สู้” หลวง ปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม กล่าวยกย่องพระมงคลมหาลาภอย่างยิ่งภายหลังจากได้เรียกขันธ์ 5 มาบูชาพร้อมกับก้มลงกราบลง 3 ครั้งท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้คนจำนวนมากในงานพิธีพุทธาภิเษกครั้งหนึ่ง "พระมงคลมหาลาภนี้ มีรัศมีสีเขียว ดีทางแคล้วคลาดยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ต้องไปหาพระรอดมหาวันให้เหนื่อยยากเลยทีเดียว" อ.ประถม อาจสาคร ผู้นำผงพระมงคลมหาลาภนี้มาเป็นมวลสารหลักในการสร้างพระผงโสฬสมหาพรหมถวายหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนโด่งดังที่สุด

คำที่เกี่ยวข้อง
แม่ชีบุญเรือนจี้แม่ชีบุญเรือนรูปแม่ชีบุญเรือนกรอบแม่ชีบุญเรือนแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติมแม่ชี บุญแม่บุญเรือนคุณแม่บุญเรือนหนังสือแม่บุญเรือนรูปแม่บุญเรือน

สินค้าใกล้เคียง